เมื่อไม่นานมานี้ มีข้อความแพร่กระจายบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ ว่ากฎหมายใหม่ จะทำให้เด็กพม่าที่เกิดในไทย ได้รับสัญชาติไทยโดยอัตโนมัติ

ข้อกล่าวอ้างบนโซเชียลมีเดีย

มีผู้ใช้ Facebook ได้แชร์ข้อความที่ระบุว่า “จากนี้เด็กพม่าที่เกิดในประเทศไทยจะได้รับสัญชาติไทยโดยอัตโนมัติ แถมยังได้รับการศึกษาฟรี ได้รับการรักษาพยาบาลฟรี มีสิทธิ์ทุกอย่างเหมือนเด็กไทยคนหนึ่ง รวมถึงเด็กพม่าที่ลี้ภัยสงครามด้วยถ้าเข้ามาอยู่ในไทยจะได้รับสัญชาติไทยทันที”



นอกจากนี้ เรายังพบข้อกล่าวอ้างที่คล้ายคลึงกันแพร่กระจายบนแพลตฟอร์ม X และ TikTok เช่นเดียวกัน



อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบข้อเท็จจริง เราพบว่าข้อความดังกล่าวนั้นเป็นข้อมูลที่ชวนให้เข้าใจผิด

ตรวจสอบข้อเท็จจริง

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้ออกมาชี้แจงกรณีการให้สัญชาติ จากมาตรา 22 ของอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ว่า ไม่มีให้สัญชาติแก่เด็กผู้ใดโดยเด็ดขาด โดยมาตราที่ 22 จะกล่าวถึงเรื่องการให้สิทธิเพื่อดูแลเด็ก ทั้งในทางร่างกาย จิตใจ การศึกษา และในแง่มุมต่างๆ โดยประเทศไทยเป็นประเทศสุดท้ายที่ให้การรับรองมาตราดังกล่าว (ที่มา)


@topvarawut ขอทําความเข้าใจครับ #topvarawut ♬ original sound - Top Varawut


ความเป็นมาของข้อสงวนมาตราที่ 22

อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กเป็นสนธิสัญญาระหว่างประเทศที่ไทยเข้าร่วมเป็นภาคีตั้งแต่ปี 2531 โดยมีประเทศภาคีทั้งหมด 196 ประเทศ ข้อสงวนมาตราที่ 22 ของอนุสัญญานี้เกี่ยวข้องกับการให้ความคุ้มครองและช่วยเหลือแก่เด็กผู้ลี้ภัยไทยเป็นประเทศสุดท้ายที่ยังคงสงวนข้อนี้ไว้ หลังจากที่ประเทศอื่น ๆ เช่น เยอรมนี อินโดนีเซีย มาเลเซีย และเนเธอร์แลนด์ ได้ถอนข้อสงวนไปก่อนหน้านี้แล้ว

เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2567 UNICEF Thailand ได้เผยแพร่แถลงการณ์เกี่ยวกับการที่รัฐบาลไทยได้ตัดสินใจถอนข้อสงวนมาตรา 22 ของอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก (CRC) ซึ่งเป็นการแสดงถึงความมุ่งมั่นของประเทศไทยในการปกป้องสิทธิเด็กทุกคน โดยเฉพาะเด็กที่อยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก

ประเด็นหลักของบทความมีดังนี้:

1. การถอนข้อสงวนมาตรา 22: ข้อสงวนนี้เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองเด็กที่ไม่มีผู้ปกครองหรือเด็กที่อยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก การถอนข้อสงวนนี้จะช่วยให้เด็กทุกคนในประเทศไทยได้รับการคุ้มครองตามมาตรฐานสากล

2. การยืนยันความมุ่งมั่น: การตัดสินใจนี้แสดงถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลไทยในการปกป้องสิทธิเด็กทุกคน และเป็นการยืนยันว่าประเทศไทยพร้อมที่จะปฏิบัติตามมาตรฐานสากลในการคุ้มครองเด็ก

3. การเรียกร้องจาก UNICEF: UNICEF เรียกร้องให้รัฐบาลไทยดำเนินการตามมติอย่างเต็มที่และต่อเนื่อง เพื่อให้เด็กทุกคนได้รับการปกป้องและสนับสนุนอย่างเหมาะสม

4. ผลกระทบที่คาดหวัง: การถอนข้อสงวนนี้จะช่วยให้เด็กที่อยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากได้รับการคุ้มครองและมีสิทธิเท่าเทียมกับเด็กคนอื่น ๆ ในประเทศไทย

ความหมายของการถอนข้อสงวน

การถอนข้อสงวนที่ 22 หมายความว่า ประเทศไทยจะให้การคุ้มครองและช่วยเหลือทางมนุษยธรรมแก่เด็กผู้ลี้ภัยอย่างเหมาะสมสิทธิที่เด็กผู้ลี้ภัยจะได้รับ เช่น การศึกษาและการรักษาพยาบาล จะเทียบเท่ากับเด็กไทยอย่างไรก็ตาม การถอนข้อสงวนนี้ไม่ได้หมายความว่าเด็กต่างด้าวทุกคนในไทยจะได้รับสัญชาติไทยโดยอัตโนมัติ

ความเข้าใจผิดที่พบบ่อย:

1. การให้สัญชาติไทยแก่เด็กต่างด้าว: การถอนข้อสงวนไม่ได้เกี่ยวข้องกับการให้สัญชาติไทยแก่เด็กต่างด้าวแต่อย่างใด

2. ผลกระทบต่อแรงงานต่างด้าว: ประเด็นนี้ไม่เกี่ยวข้องกับลูกหลานของแรงงานต่างด้าว แต่เน้นไปที่เด็กผู้ลี้ภัยโดยเฉพาะ

3. การตั้งถิ่นฐานถาวรของผู้ลี้ภัย: ส่วนใหญ่แล้ว ประเทศไทยเป็นเพียงจุดพักชั่วคราวสำหรับผู้ลี้ภัยก่อนที่จะเดินทางไปยังประเทศปลายทาง เช่น ประเทศในยุโรปหรืออเมริกา

กฎหมายสัญชาติของไทย

ตาม พระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ. 2508 และการแก้ไขเพิ่มเติม กฎหมายไทยใช้หลักการผสมผสานระหว่าง jus sanguinis (การให้สัญชาติโดยสายเลือด) และ jus soli (การให้สัญชาติตามสถานที่เกิด) อย่างไรก็ตาม กฎหมายไทยเน้นหนักไปที่ jus sanguinis มากกว่า กล่าวคือการได้รับสัญชาติไทยส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับว่าพ่อแม่ของเด็กนั้นมีสัญชาติไทยหรือไม่ มากกว่าจะพิจารณาจากสถานที่เกิดของเด็ก

หลักการให้สัญชาติของไทย

  • หากเด็กเกิดในประเทศไทยและมี พ่อหรือแม่ที่ถือสัญชาติไทย เด็กคนนั้นจะได้รับสัญชาติไทยโดยอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเกิดในไทยหรือต่างประเทศ
  • หากเด็กเกิดในประเทศไทยแต่ พ่อแม่ไม่ได้ถือสัญชาติไทย เด็กจะไม่ได้รับสัญชาติไทยโดยอัตโนมัติ เว้นแต่จะมีกรณีเฉพาะ เช่น หากพ่อแม่ของเด็กเป็นบุคคลไร้รัฐ หรือมีสถานะคนเข้าเมืองถูกต้องและเป็นกรณีพิเศษที่กฎหมายเปิดช่องให้ทำการร้องขอการพิจารณาเป็นรายกรณี

เด็กพม่าที่เกิดในไทย

สำหรับเด็กที่เกิดจากพ่อแม่ชาวพม่า ซึ่งถือเป็นชาวต่างชาติ จะไม่ได้รับสัญชาติไทยโดยอัตโนมัติ แม้ว่าจะเกิดในประเทศไทยก็ตาม หากพ่อแม่ของเด็กไม่มีสัญชาติไทย เด็กคนนั้นจะได้รับสัญชาติตามพ่อแม่ (ในกรณีนี้คือพม่า) เว้นแต่จะมีข้อกำหนดพิเศษในการยื่นขอสัญชาติไทย

ตัวอย่างเช่น กลุ่มเด็กไร้สัญชาติบางส่วนในพื้นที่ชายแดนไทย-พม่า อาจสามารถยื่นขอสัญชาติไทยได้หากเป็นไปตามเงื่อนไขที่ระบุในพระราชบัญญัติสัญชาติ แต่ไม่ใช่กรณีที่เด็กทุกคนที่เกิดในประเทศไทยจะได้รับสัญชาติไทยโดยอัตโนมัติ (ที่มา)

สรุป

ข้อกล่าวอ้างว่า ต่อจากนี้ไป เด็กพม่าที่เกิดในไทยนั้นจะได้รับสัญชาติไทยโดยอัตโนมัตินั้น เป็นข้อมูลที่ชวนให้เข้าใจผิด การถอนข้อสงวนที่ 22 เป็นการแสดงความรับผิดชอบของไทยต่อสิทธิเด็กในระดับสากล โดยมุ่งเน้นการให้ความคุ้มครองและสวัสดิภาพแก่เด็กผู้ลี้ภัยโดยเฉพาะ และการถอนข้อสงวนนี้ไม่ได้ทำให้เด็กต่างชาติได้สัญชาติไทยโดยอัตโนมัติแต่อย่างใด

ที่มา:

· OHCHRAsia

· Drama Addict

· AGO

· Prachatai.com