ในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา อัตราผู้ป่วยจากโควิด-19 กลับมาเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง โดยศูนย์ควบคุมโรคติดต่อสหรัฐฯ (CDC) ได้ออกมาแถลงถึงการค้นพบเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งก็คือสายพันธุ์ JN.1

ข้อควรรู้เกี่ยวกับสายพันธุ์ใหม่จาก CDC

โควิด-19 สายพันธุ์ JN.1 พัฒนามาจาก BA.2.86 โดยปัจจุบันสายพันธุ์ใหม่นี้dลายเป็นสายพันธุ์ที่แพร่เชื้อเร็วที่สุดในสหรัฐอเมริกา โดย ณ วันที่ 8 ธันวาคม 2023 พบผู้ป่วยจากสายพันธุ์ดังกล่าวประมาณ 15–29%

แต่แม้ว่าจะมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังไม่พบข้อมูลที่สนับสนุนว่าสายพันธุ์ JN.1 เพิ่มความเสี่ยงของประชาชนมากยิ่งขึ้น เมื่อเทียบกับสายพันธุ์อื่นๆ ที่มีการระบาดอยู่ มีการคาดการณ์ว่า วัคซีนป้องกันโควิด-19 ในปัจจุบันจะสามารถป้องกัน JN.1 ได้

สายพันธุ์ JN.1 มีแนวโน้มจะไม่ก่อให้เกิดการป่วยที่รุนแรงกว่าสายพันธุ์อื่นๆ ก่อนหน้านี้ โดยอาการจากสายพันธุ์ JN.1 คล้ายคลึงกับอาการที่เกิดจากสายพันธุ์อื่นๆ ทั้งนี้อาจขึ้นอยู่กับสุขภาพและระดับภูมิคุ้มกันของแต่ละบุคคลด้วย โดยอาการทั่วไป ได้แก่ เจ็บคอ คัดจมูก น้ำมูกไหล ไอ เหนื่อยล้า และปวดศีรษะ

แม้ว่าอาการป่วยจากโรคติดเชื้อโควิด-19 โดยรวมในปัจจุบันจะดูรุนแรงน้อยกว่าในปีที่ผ่านมา แต่ข้อมูลของ CDC ชี้ว่ายอดผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลจากการติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นถึง 20% และผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 12.5% จากสัปดาห์ที่ผ่านมา และยังคงมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 โดยเฉลี่ยประมาณ 1,500 รายต่อสัปดาห์

จำนวนผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ JN.1 ในประเทศไทย

วันที่ 11 ม.ค. 2567 นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 คาดการณ์ว่าจำนวนผู้ป่วยมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะหลังเทศกาลปีใหม่ โดยในช่วงสัปดาห์แรกของปี 2567 พบผู้ป่วยเข้ารักษาในโรงพยาบาลจำนวน 664 ราย หรือเฉลี่ย 95 รายต่อวัน สูงขึ้นจากสัปดาห์ก่อน ซึ่งอยู่ที่ 70 รายต่อวัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 12 โดยเป็นผู้ป่วยอาการหนัก 144 ราย และเสียชีวิต 4 ราย และยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องอีกระยะหนึ่ง ตามการคาดการณ์ที่จะมีการระบาดในช่วงปลาย พ.ย. 2566 ถึงต้น ก.พ.2567

ภาพจาก: กรมควบคุมโรค

นอกจากนี้ กรมควบคุมโรคได้แนะนำแนวทางการดูแลตนเองสำหรับประชาชนว่า ให้เน้นการป้องกันตนเองด้วยการสวมหน้ากากขณะอยู่ในสถานที่ที่มีผู้คนรวมกันจำนวนมาก เช่น ขนส่งสาธารณะ โรงพยาบาล และสถานดูแลผู้สูงอายุ และหมั่นล้างมือบ่อยๆ

หากประชาชนป่วยมีอาการทางเดินหายใจ ให้ตรวจ ATK และหลีกเลี่ยงใกล้ชิดกลุ่ม 608 (ผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปี, ผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรัง โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง, โรคหัวใจและหลอดเลือด, โรคไตวายเรื้อรัง, โรคหลอดเลือดสมอง, โรคอ้วน, โรคมะเร็ง และโรคเบาหวาน และหญิงตั้งครรภ์) เมื่อตรวจพบผลบวก 2 ขีด ให้สวมหน้ากากป้องกันแพร่เชื้อ และสังเกตอาการ รีบไปพบแพทย์เมื่อมีอาการหอบเหนื่อย หายใจลำบาก

สำหรับกลุ่มเสี่ยง 608 ให้ฉีดวัคซีนโควิด-19 ประจำปี สวมหน้ากากเมื่อใกล้ชิดคนจำนวนมาก หลีกเลี่ยงใกล้ชิดผู้ที่มีอาการป่วยโรคทางเดินหายใจ หากเริ่มมีอาการป่วยและมีผลตรวจ ATK เป็นบวก ให้สวมหน้ากากและรีบพบแพทย์เพื่อรับการรักษาและพิจารณาจ่ายยาต้านไวรัสโดยเร็ว เพื่อลดโอกาสป่วยมีอาการรุนแรง

ที่มา:

Update on SARS-CoV-2 Variant JN.1 Being Tracked by CDC

AMA: Symptoms of new COVID variant JN.1

MGR Online: สัปดาห์แรกปี 67 ป่วย "โควิด" เพิ่มชึ้น 12% ดับแล้ว 4 ราย JN.1 แนวโน้มพุ่ง เตือน 608 ป้องกัน

Hfocus: กรมควบคุมโรค เผย "โควิด JN.1" มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ย้ำกลุ่ม 608 ควรป้องกันด้วยการสวมหน้ากาก

Avatar

Title:รู้จักโควิดสายพันธุ์ใหม่ล่าสุด JN.1: ความรุนแรง อาการ และวิธีป้องกันตนเอง

Written By: Cielito Wang

Result: Insight