
เมื่อช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ดูไบประสบเหตุการณ์ฝนตกครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 75 ปีของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ทำให้เกิดน้ำท่วมเมืองและเหตุขัดข้องในหลายๆ ภาคส่วน รวมถึงและการระงับเที่ยวบินจำนวนมาก และท่ามกลางภัยพิบัติครั้งนี้ มีข้อความบนโซเชียลมีเดียจำนวนมากระบุว่าสาเหตุที่ทำให้เกิดน้ำท่วมใหญ่ครั้งนี้คือการเพาะเมฆ (Cloud Seeding) หรือการทำฝนเทียม
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: คลิปวิดีโอในอดีต ถูกนำมาแชร์ใหม่ว่าเป็นเหตุการณ์น้ำท่วมในซาอุฯ ครั้งล่าสุด
ข้อกล่าวอ้างบนโซเชียลมีเดีย
เมื่อเร็วๆ นี้ มีผู้ใช้หลายรายบน Facebook ที่โพสต์ข้อความระบุว่าสาเหตุที่เกิดน้ำท่วมใหญ่ในเมืองดูไบนั้นมีสาเหตุมาจากการทำฝนเทียมในเมือง



ตรวจสอบข้อเท็จจริง
ศูนย์อุตุนิยมวิทยาแห่งชาติ (National Center of Meteorology: NCM) ซึ่งรับผิดชอบโครงการ Cloud Seeding ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ระบุกับสำนักข่าว CNBC ว่า ทางศูนย์ฯ ไม่ได้ดำเนินการเพาะเมฆในช่วงก่อนหน้าหรือระหว่างช่วงที่มีเหตุการณ์สภาพอากาศแปรปรวนครั้งนี้แต่อย่างใด
Maarten Ambaum ศาสตราจารย์ด้านฟิสิกส์และพลศาสตร์ของชั้นบรรยากาศ University of Reading กล่าวว่าเขาได้พูดคุยกับนักอุตุนิยมวิทยาที่ NCM ที่ได้ปฏิเสธว่าไม่ได้ทำการเพาะเมฆในช่วงระยะเวลาดังกล่าว โดยอธิบายเพิ่มเติมว่าการเพาะเมฆในเอมิเรตส์นั้นใช้กับเมฆที่ไม่ก่อให้เกิดฝน และจะไม่ทำให้เกิดฝนตกหนักรุนแรง และการเพาะเมฆที่มีแนวโน้มจะก่อให้เกิดฝนตกหนักอยู่แล้ว ก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไร (ที่มา)
ผู้เชี่ยวชาญหลายรายกล่าวว่าที่มาของน้ำฝนมีความเกี่ยวข้องกับระบบพายุขนาดใหญ่ที่เคลื่อนผ่านคาบสมุทรอาหรับและเคลื่อนตัวข้ามอ่าวโอมาน นอกจากนี้ยังนำสภาพอากาศชื้นผิดปกติมาสู่ประเทศเพื่อนบ้านอย่างโอมานและทางตะวันออกเฉียงใต้ของอิหร่านอีกด้วย นอกจากนี้ Colin McCarthy นักวิทยาศาสตร์ด้านภูมิอากาศ อธิบายว่า สาเหตุของฝนตกหนักครั้งนี้เกิดจากพายุฝนฟ้าคะนองรุนแรงหลายครั้งที่ก่อตัวจากน้ำอุ่นในอ่าวเปอร์เซีย
สาเหตุอื่นๆ ที่ก่อให้เกิดฝนนั้นมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) โดย Friederike Otto นักอุตุนิยมวิทยากล่าวกับสำนักข่าว AFP ว่า มีความเป็นไปได้สูงที่ฝนตกหนักที่ถล่มโอมานและดูไบครั้งนี้จะทวีความรุนแรงขึ้นอีก เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มาจากฝีมือมนุษย์” (ที่มา)
การเพาะเมฆ (Cloud Seeding) มีกลไกอย่างไร
โดยพื้นฐานแล้ว การเพาะเมฆทำงานโดยการจำลองกระบวนการที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติของฝนและหิมะ กล่าวคือ ในเมฆปกติ หยดน้ำที่มีขนาดเล็กมากในไอน้ำจะถูกดึงดูดโดยละอองลอยในชั้นบรรยากาศ เช่น ฝุ่น ละอองเกสรดอกไม้ หรือเกลือจากทะเล เมื่อหยดน้ำมาบรรจบกันรอบนิวเคลียสมากพอ ก็จะก่อตัวเป็นผลึกน้ำแข็งและตกลงมา
โดยทั่วไปแล้วการเพาะเมฆจะใช้เครื่องบินที่ติดตั้งอุปกรณ์พิเศษ แต่ก็ใช้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าบนภาคพื้นดินด้วยเช่นกัน โดยการฝังอนุภาค ซึ่งโดยทั่วไปคือซิลเวอร์ไอโอไดด์ (Silver Iodide) ภายในและรอบๆ เมฆที่เลือกไว้เพื่อทำหน้าที่เป็นนิวเคลียสและกระตุ้นกระบวนการตกตะกอน (ที่มา)
สรุป
ข้อความบนโซเชียลมีเดียที่กล่าวว่า การทำฝนเทียมหรือการเพาะเมฆของดูไบเป็นสาเหตุของน้ำท่วมใหญ่ครั้งล่าสุดนั้น เป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้องผู้เชี่ยวชาญและศูนย์อุตุนิยมวิทยาแห่งชาติ (NCM) ระบุว่าการเพาะเมฆไม่สามารถทำให้เกิดฝนตกหนักเช่นนี้ได้ และสาเหตุของสภาพอากาศที่แปรปรวนครั้งนี้มีปัจจัยสำคัญมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภาวะโลกร้อน
ติดตามช่องทางอื่นๆ ของเรา เพื่อไม่ให้พลาดทุกข้อเท็จจริง
Facebook | Twitter | Instagram | LINE | TikTok | WhatsApp

Title:น้ำท่วมครั้งใหญ่ในดูไบ ไม่ได้มีสาเหตุมาจากฝนเทียม
Fact Check By: Cielito WangResult: Misleading