กระทรวงดิจิทัลฯ แจง ข้อความ “ยกเลิกเงินดิจิทัล 10,000 บาท” เป็นข่าวปลอม
ในช่วงที่ผ่านมา มีข่าวลือเกี่ยวกับการยกเลิกโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท แพร่กระจายอย่างรวดเร็วบนโซเชียลมีเดีย สร้างความสับสนให้กับประชาชนจำนวนมาก ท่ามกลางความคาดหวังต่อนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่
ข้อกล่าวอ้างบนโซเชียลมีเดีย
เมื่อเร็วๆ นี้ มีผู้ใช้ Facebook หลายรายโพสต์ข้อความว่า “ด่วน!! ประกาศยกเลิก แจกเงินดิจิตอล 10,000” โดยมีการแชร์ต่อและแพร่กระจายเป็นวงกว้าง
ตรวจสอบข้อเท็จจริง
ในวันที่ 21 กันยายน 2567 นายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ รองปลัดและโฆษกกระทรวงกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ชี้แจงกรณีข้อความที่ระบุว่า "ประกาศยกเลิกการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท" ที่มีการแพร่กระจายอยู่บนโซเชียลมีเดียในขณะนี้ โดยชี้แจงว่าเป็นข้อมูลเท็จ
กลุ่มสารนิเทศการคลัง กระทรวงการคลัง ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า การดำเนินโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ล่าสุดจะเป็นการดำเนินโดยผ่าน 2 โครงการ ได้แก่:
โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐมีวัตถุประสงค์เพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพและเพิ่มศักยภาพของผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ (โครงการลงทะเบียนฯ) ปี 2565 โดยจะดำเนินการโอนเงินให้ 10,000 บาทต่อคน ผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชนหรือผ่านบัญชีเงินฝากธนาคารตามที่ได้แจ้งความประสงค์เป็นหนังสือ ณ สำนักงานคลังจังหวัด หรือกรมบัญชีกลาง (เฉพาะกรณีผู้ป่วยติดเตียงและผู้สูงอายุที่มีอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป) ให้แก่กลุ่มเป้าหมายจำนวนประมาณ 12.40 ล้านราย
และอีกหนึ่งโครงการคือ โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านคนพิการ โดยรัฐจะสนับสนุนเงินจำนวน 10,000 บาทต่อคน ผ่าน 2 ช่องทาง ได้แก่ ช่องทางการรับเงินเบี้ยความพิการที่ได้รับข้อมูลจาก อปท. กทม. และเมืองพัทยา และบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชนของคนพิการ (กรณีไม่ปรากฏข้อมูลช่องทางการรับเงินเบี้ย)
สำหรับการดำเนินการทั้ง 2 โครงการ กระทรวงการคลังโดยกรมบัญชีกลางจะเริ่มทยอยจ่ายเงินให้แก่กลุ่มเป้าหมายตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2567 เป็นต้นไป
(ที่มา: ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม)
ที่มา: ThairathTV
สรุป
ข้อความที่อ้างว่ามีการยกเลิกโครงการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท เป็นข่าวปลอม ไม่มีมูลความจริง โครงการยังคงดำเนินการต่อไปตามแผนที่วางไว้ โดยจะเริ่มทยอยจ่ายเงินให้แก่กลุ่มเป้าหมายตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2567 เป็นต้นไป