
Human papillomavirus (HPV) เป็นโรคติดต่อผ่านทางเพศสัมพันธ์ (Sexually transmitted infection: STI) ที่พบเห็นได้บ่อยที่สุด ซึ่งส่วนใหญ่แพร่กระจายผ่านการมีเพศสัมพันธ์ แต่เมื่อไม่นานมานี้ โซเชียลต่างเริ่มแสดงความกังวลเกี่ยวกับการติดเชื้อ HPV จากแหล่งอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องเพศ เช่น การใช้ห้องน้ำสาธารณะ
โพสต์บนโซเชียลมีเดีย
ผู้ใช้ Twitter ได้ทวีตข้อความว่า “อยากช่วยประชาสัมพันธ์ว่า HPV ติดได้จากห้องน้ำสาธารณะด้วย เคยมีคนไปทดลองเทสสวอปตามลูกบิดประตู ก็อกน้ำ สรุปเจอเชื้อ HPV เพียบ”

โดยทวีตดังกล่าวมีการรับชมไปแล้วกว่าเจ็ดล้านครั้ง และถูกรีทวีตต่อกว่าหกหมื่นครั้ง
นอกจากนี้ เรายังพบข้อความลักษณะเดียวกันบน TikTok อีกด้วย
ทำความรู้จักโรค HPV
Human papillomavirus (HPV) เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STI) ที่พบบ่อยที่สุดในสหรัฐอเมริกา โดยสามารถติดต่อได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ซึ่งส่วนใหญ่จะติดเชื้อเมื่อเริ่มมีเพศสัมพันธ์หรือกิจกรรมทางเพศ เมื่อติดเชื้อส่วนใหญ่จะไม่แสดงอาการชัดเจนในช่วง 2 ปีแรก
HPV บางชนิดสามารถนำไปสู่มะเร็งหรือหูดหงอนไก่ได้ และสามารถป้องกันได้โดยการฉีดวัคซีน HPV
การติดต่อ
HPV ติดต่อผ่านการสัมผัส (Skin-to-skin contact) โดยส่วนใหญ่จะติดต่อผ่านทางช่องคลอด ทวารหนัก หรือทางปากจากคนที่ติดเชื้อไวรัส นอกจากนี้ยังสามารถแพร่กระจายผ่านการสัมผัสระหว่างมีเพศสัมพันธ์หรือมีกิจกรรมทางเพศ โดยผู้ที่ติดเชื้อ HPV อาจจะไม่แสดงอาการหรือมีอาการก็ได้
HPV มักจะแพร่เชื้อผ่านการสัมผัสบริเวณอวัยวะเพศหรือสารคัดหลั่งในร่างกายโดยตรง ซึ่งอาจมาจากการมีเพศสัมพันธ์ ทั้งผ่านทางช่องคลอด ทวารหนัก หรือผ่านทางปาก นอกจากนี้ยังสามารถติดต่อกันจากการสัมผัสกันแบบใกล้ชิด แม้จะไม่มีการสอดใส่ก็ตาม โดยเชื้อไวรัสจะเข้าสู่ร่างกายผ่านรอยเล็กๆ ในผิวหนังหรือเยื่อเมือกภายในร่างกาย
สามารถติดเชื้อ HPV จากการใช้ห้องน้ำสาธารณะได้หรือไม่?
แพทย์หญิงนิชานันท์ จันทรภิรมย์ สูตินรีแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งวิทยานรีเวช ได้อธิบายถึงความเสี่ยงในการติดเชื้อ HPV จากการใช้ห้องน้ำสาธารณะไว้ว่า มากกว่า 80-90% จากการติด HPV มาจากเพศสัมพันธ์ การจะติดเชื้อ HPV ได้ หมายความว่าจะต้องมีการสัมผัสที่ปากมดลูกโดยตรง โดยปากมดลูกจะอยู่ภายใน ห่างจากปากช่องคลอดประมาณ 7-8 เซนติเมตร ส่วนการใช้ห้องน้ำสาธารณะ หรือการใช้สายฉีดชำระนั้น มีโอกาสน้อยมากที่จะทำให้ติดเชื้อ HPV เพราะไม่ได้เกิดการสัมผัสโดยตรงถึงปากมดลูก ยกเว้นกรณีที่มีการฉีดสวนล้างช่องคลอด หรือการล้วงทำความสะอาดภายใน ซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อได้ ดังนั้น เวลาทำความสะอาด จึงไม่แนะนำให้ทำการสวนล้างช่องคลอด เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ HPV นั่นเอง
นอกจากนี้ American Cancer Society ได้กล่าวถึงความเสี่ยงในการติด HPV ว่า เชื้อไวรัส HPV สามารถติดต่อได้จากการสัมผัสอวัยวะเพศได้ ถึงแม้จะไม่มีเพศสัมพันธ์ แม้ว่าจะพบได้น้อยมากก็ตาม แต่ไม่สามารถติด HPV ได้จากการใช้สุขภัณฑ์ร่วมกับผู้อื่น การสวมกอดหรือจับมือ จากสระว่ายน้ำและอ่างน้ำร้อน จากการแบ่งปันอาหารหรือช้อนส้อม หรือแม้แต่การไม่รักษาสุขอนามัย แต่สามารถติด HPV ได้ แม้จะงดเว้นการแม้เพศสัมพันธ์หรือกิจกรรมทางเพศเป็นเวลาหลายปี หรือแม้ไม่มีสัญญาณหรืออาการใดๆ ของโรคเลยก็ตาม และนอกจากนี้ ภูมิคุ้มกันที่ต่ำหรือลดลง ก็สามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ HPV ได้เช่นกัน
และเว็บไซต์ Verywell Health ก็ได้อธิบายในกรณีนี้ไว้ว่า โอกาสในการติดเชื้อ HPV จากการใช้ชักโครกนั้นมีความเป็นไปได้น้อยมาก อย่างไรก็ตาม การรักษาความสะอาดสามารถช่วยลดความเสี่ยงจากการติด HPV จากวัตถุภายนอกต่างๆ ได้
มีหลายวิธีในการป้องกันเชื้อ HPV โดยหนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดคือการฉีดวัคซีน HPV นอกจากนี้ การใช้ถุงยางอนามัยและ/หรือแผ่นยางครอบฟันทุกครั้งที่คุณมีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอด ทวารหนัก หรือทางปากสามารถลดโอกาสในการติดเชื้อ HPV ได้เช่นกัน
สรุป
แม้ว่าความกังวลเกี่ยวกับการติดเชื้อ HPV จากห้องน้ำสาธารณะจะเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ แต่โอกาสที่จะเกิดขึ้นนั้นมีน้อยมาก ส่วนใหญ่แล้ว HPV ติดต่อผ่านเพศสัมพันธ์เป็นหลัก การมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย รับการฉีดวัคซีน และการรักษาสุขอนามัยทางเพศคือวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันการติดเชื้อ HPV