
เมื่อเร็ว ๆ นี้ มีข้อมูลที่แพร่สะพัดในโลกออนไลน์ ระบุว่า “รัฐบาลเตรียมขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จาก 7% เป็น 15%” ซึ่งสร้างความกังวลแก่ประชาชนอย่างมาก เนื่องจากภาษี VAT มีผลโดยตรงต่อค่าครองชีพ ทั้งราคาสินค้าและบริการในชีวิตประจำวันของคนไทย
โพสต์บนโซเชียลมีเดีย
เมื่อเร็วๆ นี้ มีผู้ใช้โซเชียลหลายรายโพสต์แสดงความไม่พอใจเกี่ยวกับข่าวที่ระบุว่า รัฐบาลเตรียมปรับ VAT หรือภาษีมูลค่าเพิ่มขึ้น จาก 7% เป็น 15% โดยข้อความดังกล่าวได้แพร่กระจายอย่างเป็นวงกว้างทั้งบน X และ Facebook
อย่างไรก็ตาม เราพบว่าข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริงและอาจสร้างความกังวลและความเข้าใจผิดแก่ผู้อ่านได้
ตรวจสอบข้อเท็จจริง
เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม ที่ผ่านมา นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้กล่าวในงาน Sustainability Forum 2025 ว่า รัฐบาลกำลังพิจารณาปรับโครงสร้างภาษีของประเทศ โดยให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ศึกษาความเป็นไปได้
โดยหนึ่งในมาตรการที่กล่าวถึงคือ การปรับอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ให้สอดคล้องกับค่าเฉลี่ยของประเทศอื่น ๆ ซึ่งอยู่ที่ 15-25% เนื่องจากอัตราภาษี VAT ของไทยปัจจุบันที่ 7% ต่ำกว่าหลายประเทศในโลก
และจากคำกล่าวข้างต้น ทำให้เกิดความเข้าใจผิดเป็นวงกว้าง ว่ารัฐบาลจะทำการปรับอัตราภาษีมูลเพิ่มขึ้นเป็น 15% และล่าสุดในวันนี้ (4 ธันวามคม) นายพิชัยได้ชี้แจงเพิ่มเติมกับสื่อมวลชนว่า การเพิ่ม VAT เป็นเพียง “แนวคิด” และยังไม่มีการตัดสินใจใดๆ โดยนายพิชัยระบุว่า แนวคิดนี้มุ่งศึกษาถึงข้อดีและข้อเสีย รวมถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจและชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ทั้งนี้การตัดสินใจจะต้องผ่านการพิจารณาอย่างรอบด้านและรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่ายก่อนดำเนินการใดๆ
เปรียบเทียบอัตราภาษี VAT ในระดับสากล: นายพิชัยชี้ว่า ค่าเฉลี่ยของอัตราภาษี VAT ในหลายประเทศทั่วโลกอยู่ในช่วง 15-25% เช่น
- จีน: 19%
- สิงคโปร์: 9% (เพิ่มจาก 5% ในปีที่ผ่านมา)
- ประเทศในยุโรป: เฉลี่ยสูงถึง 20%
อย่างไรก็ตาม ไทยยังคงใช้อัตรา VAT ที่ 7% ซึ่งต่ำกว่าประเทศเหล่านี้มาก
กรณีศึกษาจากมติ ครม. ในอดีต: ในอดีต ครม. เคยมีมติให้ปรับเพิ่ม VAT จาก 7% เป็น 10% แต่สุดท้ายต้องยกเลิกมติดังกล่าว เนื่องจากกังวลต่อผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อค่าครองชีพของประชาชน ประเด็นนี้สะท้อนว่า การเปลี่ยนแปลงอัตราภาษีที่มีผลกระทบต่อคนทุกกลุ่มในสังคม ต้องผ่านกระบวนการพิจารณาอย่างรอบคอบ
ความเป็นไปได้และผลกระทบหากมีการเพิ่ม VAT จริง
ผลดี:
- เพิ่มรายได้เข้ารัฐ ช่วยสนับสนุนการพัฒนาสาธารณูปโภค และลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ หากรายได้ส่วนนี้ถูกนำไปช่วยเหลือกลุ่มผู้มีรายได้น้อย
- เพิ่มความสามารถในการแข่งขันด้านโครงสร้างพื้นฐาน เช่น การลดต้นทุนพลังงานและการขนส่ง
ผลเสีย:
- เพิ่มภาระทางการเงินให้ประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อยที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากราคาสินค้าและบริการที่เพิ่มขึ้น รวมถึงอาจกระตุ้นความไม่พอใจในสังคมได้
สรุป
ในปัจจุบัน ยังไม่มีการประกาศปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มแต่อย่างใด ขณะนี้รัฐบาลเพียงศึกษาแนวทางการปรับโครงสร้างภาษี โดยการเพิ่ม VAT เป็นเพียงแนวคิดเบื้องต้น ยังไม่มีการกำหนดกรอบเวลาหรือดำเนินการใดๆ อย่างเป็นทางการ
ที่มา:

Title:รัฐบาลเตรียมขึ้นภาษี VAT จาก 7% เป็น 15% จริงหรือ?
Written By: Cielito WangResult: Misleading