Apple แพ้คดีให้กับนักวิจัยชาวไทย จริงหรือไม่?

เมื่อไม่นานมานี้ มีข้อความแพร่กระจายบนแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ อ้างว่า ชาวไทยชนะคดีละเมิดสิทธิบัตรฟีเจอร์สั่งงานด้วยเสียง “Siri” และบริษัท Apple ต้องจ่ายค่าปรับ 25 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

ข้อกล่าวอ้างบนโซเชียลมีเดีย

เมื่อไม่นานมานี้ มีข้อความแพร่กระจายบนแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ ระบุว่า Apple แพ้คดีสิทธิบัตร Siri และต้องจ่ายค่าปรับให้กับนักวิจัยชาวไทย 25 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

ที่มา | ลิงก์ถาวร

ตรวจสอบข้อเท็จจริง

จากการตรวจสอบ เราพบว่า ข้อความดังกล่าวเป็นข้อความที่มีการแพร่กระจายมาตั้งแต่ปี 2559 และมีหลายๆ เว็บไซต์ที่นำเสนอข่าวเรื่องนี้ (เช่น ที่นี่และที่นี่) อย่างไรก็ตาม ข้อกล่าวอ้างที่ระบุว่า Apple จ่ายค่าปรับให้นักวิจัยคนไทย 25 ล้านเหรียญสหรัฐฯ นั้น นั้นไม่ใช่ข้อมูลที่ถูกต้องนัก แม้ Apple จะแพ้คดี และต้องจ่ายค่าสิทธิบัตรสำหรับฟีเจอร์ Siri จริงก็ตาม

นักวิจัยชาวไทยเป็นผู้คิดค้น Siri จริงหรือไม่?

นักวิจัยไทยรายดังกล่าว คือ ดร.วีระ บุญจริง ซึ่งเคยเป็นนักศึกษาปริญญาเอกจาก Rensselaer Polytechnic Institute (RPI) โดยระหว่างศึกษาที่สถาบัน RPI ได้ทำวิจัยเกี่ยวกับ Natural Language Interface (อินเทอร์เฟซภาษาธรรมชาติ) โดยมี Professor Cheng Hsu เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา ทำให้งานวิจัยชิ้นนี้ถือเป็นของทางสถาบัน RPI ไม่ใช่กรรมสิทธิ์ของดร. วีระ แต่เพียงผู้เดียว

ในเวลาต่อมา RPI ได้ อนุญาตให้บริษัท Dynamic Advances ได้ลิขสิทธิ์ไปแต่เพียงผู้เดียว และเมื่อ Apple ได้เปิดตัวฟีเจอร์ Siri ที่มีพื้นฐานการทำงานโดยใช้ Natural Language Interface บริษัทจึงได้ดำเนินการฟ้อง Apple ข้อหาละเมิดสิทธิบัตรที่บริษัทเป็นเจ้าของ ซึ่งต่อมาเมื่อปี 2013 RPI ได้เข้าร่วมฟ้องด้วย (ที่มา: โพสต์ทูเดย์)

ในปี 2016 Apple เลือกที่จะจ่ายเงิน 24.9 ล้านดอลลาร์ให้กับบริษัท Dynamic Advances ในเมืองดัลลัส เพื่อยุติคดีความที่เกี่ยวข้องกับ Siri การตัดสินใจของ Apple เกิดขึ้นหนึ่งเดือนก่อนที่คดีนี้ถึงกำหนดเข้าสู่การพิจารณาคดี (ที่มา: The Verge)

ดังนั้น Apple จึงไม่ได้ถูกศาลพิจารณาตัดสินให้จ่ายค่าปรับ แต่ทางบริษัทเลือกกที่จะจ่ายค่าปรับให้กับบริษัทเจ้าของสิทธิบัตร ก่อนที่จะมีการพิจารณาคดี

ที่มาของชื่อ Siri

ชื่อ “Siri” หรือ “สิริ” มีที่มาจาก Dag Kittlaus ผู้ร่วมสร้าง Siri ชาวนอร์เวย์ที่วางแผนที่จะตั้งชื่อลูกสาวว่า Siri ซึ่งเป็นภาษานอร์เวย์ แปลว่า "สาวงามที่นำพามาซึ่งชัยชนะ" อย่างไรก็ตาม เขาได้ลูกชายแทน และชื่อนี้ก็ถูกปัดตกไป และในตอนที่ต้องตั้งชื่อเทคโนโลยี Speech Recognition เขาก็ได้นำชื่อ Siri มาใช้ ด้วยเหตุผลว่าเป็นชื่อสั้นๆ ที่จำง่าย และออกเสียงง่าย นอกจากนี้ ในเชิงเทคนิค SIRI ยังเป็นตัวย่อสำหรับคำว่า Speech Interpretation and Recognition Interface (อินเทอร์เฟซการตีความและรู้จำเสียงพูด) อีกด้วย (ที่มา: The Week)

สรุป

ข้อกล่าวอ้างที่ระบุว่า Apple ถูกพิพากษาให้จ่ายค่าปรับให้นักวิจัยไทย นั้นชวนให้เข้าใจผิด อย่างไรก็ตาม ดร.วีระ บุญจริง ได้มีส่วนสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีเป็นรากฐานของฟีเจอร์ Siri จริง และ Apple ได้จ่ายเงินให้กับบริษัทที่มีสิทธิบัตรที่เกี่ยวข้องกับ Siri แต่ไม่ใช่ให้กับนักวิจัยไทยโดยตรง และไม่ได้ถูกศาลสูงสุดพิพากษาให้จ่าย แต่ Apple ตัดสินใจจ่ายให้บริษัทเจ้าของสิทธิบัตรและสถาบัน RPI ผู้เป็นเจ้าของงานวิจัย ก่อนที่จะมีการพิจารณาคดี