ข้อความไวรัลอ้างว่า ‘หมาล่ามีโซดาไฟ’ ไม่เป็นความจริง

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา มีข้อความแพร่กระจายบนโซเชียลมีเดียที่อ้างว่า หมาล่าหรือพริกแห้งที่นำเข้าจากประเทศจีนนั้นมีการใช้โซดาไฟเป็นส่วนผสม และนำไปผสมกับสีย้อมผ้าเป็นให้ได้สีสันที่ดูน่ารับประทาน นอกจากนี้ยังระบุว่าการบริโภคหมาล่าทำให้เกิดอาการชาในปาก ซึ่งก่อให้เกิดอันตรายต่อตับและส่วนอื่นๆ ของร่างกาย และยังอ้างว่าญี่ปุ่นและไต้หวันได้สั่งห้ามนำเข้าหมาล่าแล้ว ในขณะที่คนไทยยังคงบริโภคต่อไป ข้อกล่าวอ้างบนโซเชียลมีเดีย เมื่อวันที่ 22 มีนาคมที่ผ่านมา มีผู้ใช้ Facebook โพสต์ข้อความระบุว่า “หมาล่า หรือพริกแห้งที่ส่งมาจากเมืองจีน เป็นพริกที่เก็บเกี่ยวโดยใช้สารโซดาไฟ พ่นให้ใบเหี่ยวแห้ง แล้วร่อนเอาพริกออกมา บดแล้วผสมกับสีย้อมผ้า เวลากินจะรู้สึกชาๆที่ปาก เป็นอันตรายต่อตับและร่างกายทุกส่วน ประเทศญี่ปุ่นประเทศไต้หวัน เขาห้ามนำเข้ามาขายแล้ว แต่คนไทย ยังเอามากินกันอยู่” พร้อมโพสต์รูปภาพเครื่องปรุงรสยี่ห้อหนึ่งประกอบ ที่มา | ลิงก์ถาวร โดยข้อความดังกล่าวมีการแชร์ต่ออย่างกว้างขวาง ตรวจสอบข้อเท็จจริง เราได้ทำการค้นหาข้อมูลและรายงานเกี่ยวกับการตรวจพบโซดาไฟและสีย้อมผ้าในเครื่องปรุงหมาล่าที่นำเข้ามาในไทย แต่ก็ไม่พบรายงานใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ และล่าสุด ในวันที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา บริษัทฟ้าไทย เจ้าของผลิตภัณฑ์เครื่องปรุงหมาล่าที่ถูกนำรูปไปใช้ประกอบข้อความข้างต้น ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงว่าข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริง โดยยืนยันว่า วัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต “น้ำซุปหมาล่าเข้มข้น ตราฟ้าไทย” ไม่มีสารเคมีอันตรายใดๆ สามารถบริโภคได้อย่างปลอดภัย ผ่านการรับรองมาตรฐาน อย. และ มาตรฐาน GHPs […]

Continue Reading

จริงหรือไม่: แบกของหนัก สะพายกระเป๋าหนัก ทำให้กระดูกสันหลังคด?

โรคกระดูกสันหลังคด เป็นภาวะที่เกิดจากกระดูกสันหลังมีลักษณะความโค้งที่ผิดปกติ มีผู้คนหลายล้นคนทั่วโลกที่เผชิญกับโรคนี้ หลายๆ คนเชื่อว่าการสะพายกระเป๋าเป้ หรือกระเป๋าสะพายที่มีน้ำหนักมากจะทำให้เกิดโรคกระดูกสันหลังคดได้ คำกล่าวอ้างนี้เผยแพร่มาหลายปี ทำให้เกิดความกังวลในหมู่นักเรียน นักศึกษา วัยทำงาน และกลุ่มคนที่ต้องสะพายกระเป๋าหรือแบกของหนักเป็นประจำ ข้อกล่าวอ้างบนโซเชียลมีเดีย เมื่อไม่นานมานี้ ผู้ใช้บนแพลตฟอร์ม X ได้แชร์ข้อความที่ระบุว่า “เตือนสาวๆที่ชอบแบกบ้าน ว่าการใช้กระเป๋าสะพายข้างเดียว เสี่ยงต่อการเป็นกระดูกสันหลังคด ล่าสุดนี่โดนหมอทักตอนตรวจสุขภาพ ว่ากระดูกเริ่มคดแล้ว ผู้หญิงเป็นกันเยอะ ยิ่งคนที่แบกคอมแบกไอแพดและของเยอะๆ ให้เปลี่ยนไปใช้เป้จะดีกว่า” ที่มา | ลิงก์ถาวร โดยล่าสุดโพสต์ดังกล่าวมีการรีโพสต์กว่าสามหมื่นครั้ง และมีการรับชมไปกว่าเจ็ดล้านครั้ง รู้จักโรคกระดูกสันหลังคด โรคกระดูกสันหลังคด (Scoliosis) คือภาวะที่กระดูกสันหลังมีการโค้งออกไปบริเวณด้านข้าง โดยปกติแล้วกระดูกสันหลังของคนเราจะมีความโค้งตามปกติ และเมื่อมองจากด้านหลัง กระดูกสันหลังจะดูตรง อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีภาวะกระดูกสันหลังคดจะมีส่วนโค้งของกระดูกสันหลังรูปตัว S หรือรูปตัว C โดยการโค้งนี้สามารถเกิดขึ้นได้ที่ด้านใดด้านหนึ่งของกระดูกสันหลังและในตำแหน่งต่างๆ ในกระดูกสันหลัง และสาเหตุที่มาของภาวะกระดูกสันหลังคดก็ยังไม่เป็นที่แน่ชัด (ที่มา: National Institute of Arthritis and Musculoskeletal and Skin Diseases) แม้ภาวะกระดูกสันหลังคดส่วนใหญ่ที่พบจะมีแนวโน้มมาจากปัจจัยด้านพันธุกรรม […]

Continue Reading

ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับแกดเจ็ต “ป้องกันคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า”

ในไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผู้คนเริ่มแสดงความกังวลต่อคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่ออกมาจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ โดยเฉพาะโทรศัพท์มือถือ ทำให้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์มากมายที่อ้างว่าสามารถช่วยป้องกันคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าได้ แล้วอุปกรณ์นี้ทำงานอย่างไร และสามารถป้องกันคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าได้จริงหรือไม่? มาหาคำตอบไปกับเราเลย ข้อความบนโซเชียลมีเดีย  วิดีโอหนึ่งบน Instagram แสดงผลิตภัณฑ์ที่เรียกว่า “EMF Shield” พร้อมข้อกล่าวอ้างว่าสามารถป้องกันคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่อาจเป็นอันตรายได้ โพสต์นี้ได้รับความสนใจจากผู้คนมากมาย และมีการกดถูกใจกว่า 2,000 ครั้ง Source | Archive นอกจากนี้ เรายังพบผลิตภัณฑ์ที่คล้ายคลึงวางจำหน่ายอย่างแพร่หลายในไทย เราจึงตัดสินใจดำเนินการตรวจสอบเพิ่มเติม อ่านบทความที่คล้ายกัน: ภาพไวรัลบนโซเชียลเกี่ยวกับอันตรายของหูฟังบลูทูธ ยังไม่มีหลักฐานรองรับเพียงพอ คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าคืออะไร?  คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (Electromagnetic Wave) เป็นคลื่นประเภทหนึ่งที่ปล่อยออกมาจากเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ซึ่งรวมถึงเครื่องใช้ในครัวเรือน เช่น เตา ไมโครเวฟ โทรศัพท์มือถือ รวมถึงเครื่องใช้ขนาดใหญ่ เช่น คอมพิวเตอร์ โดยพลังงานเหล่านี้จะถูกสร้างขึ้นเมื่อกระแสไฟฟ้ามีอยู่ ซึ่งหมายความว่าเป็นส่วนประกอบที่อยู่ทั่วไปของชีวิตในยุคปัจจุบันที่ต่างต้องพึ่งพาเทคโนโลยี พูดอย่างง่ายๆ คือ คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเป็นสิ่งที่แทบจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ในชีวิตยุคปัจจุบัน แต่ทว่า คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเหล่านี้ปลอดภัยต่อมนุษย์หรือไม่? คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ามีช่วงความถี่และความยาวคลื่นหลายประเภท ก่อให้เกิดสเปกตรัมแม่เหล็กไฟฟ้า โดยสเปกตรัมประกอบด้วยคลื่นประเภทต่างๆ เช่น:  คลื่นวิทยุ: ใช้เพื่อการสื่อสาร เช่น วิทยุกระจายเสียง […]

Continue Reading

ข้อกล่าวอ้างว่าวัคซีน mRNA ทำให้เกิดแท่งสีขาวในร่างกาย “เป็นข้อมูลผิด”

ในปัจจุบัน ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับสุขภาพสามารถแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็วบนโซเชียลมีเดียและสร้างความกังวลและความสับสนให้ผู้คนได้ โดยล่าสุด เราพบข้อกล่าวอ้างที่ระบุว่าพบแท่งย้วยสีขาวในผู้รับวัคซีนโควิดชนิด mRNA โดยประเด็นดังกล่าวได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ ข้อกล่าวอ้างบนโซเชียลมีเดีย เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ศาสตราจารย์ นายแพทย์ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ระบุว่า มีงานวิจัยค้นพบแท่งย้วยสีขาว (White clot) คล้ายหนวดปลาหมึก ทั้งจากคนที่ยังมีชีวิตอยู่และเสียชีวิตจากวัคซีนโควิด ที่มา | ลิงก์ถาวร โดยข้อมูลดังกล่าวได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก โดยมีการเผยแพร่จากสำนักข่าวต่างๆ (เช่น ที่นี่ และที่นี่) รวมถึงมีการแชร์ต่อบนแพลตฟอร์มอื่นๆ อีกด้วย ที่มา | ลิงก์ถาวร ที่มา | ลิงก์ถาวร แถลงการณ์จากสถาบันวัคซีนแห่งชาติ ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ สถาบันวัคซีนแห่งชาติ ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงในกรณีลิ่มเลือดสีขาวและวัคซีนโควิดชนิด mRNA ระบุว่า จากกรณีที่มีการเผยแพร่และส่งต่อข้อมูลเกี่ยวกับการพบสิ่งแปลกปลอมซึ่งมีลักษณะเป็นลิ่มเลือดสีขาว (White clot) ในหลอดเลือดผู้เสียชีวิตที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 และระบุว่าสามารถพบสิ่งแปลกปลอมนี้ได้ในผู้ที่ยังมีชีวิตที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ซึ่งสร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชนในวงกว้าง สถาบันวัคซีนแห่งชาติและภาคีเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญไม่ได้นิ่งนอนใจกับประเด็นกังวลดังกล่าว จึงได้ประสานไปยังแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ […]

Continue Reading

ไขข้อสงสัยเบื้องหลังภาพไวรัล “เนื้อสีรุ้ง”

อาหารถือเป็นอีกหนึ่งหัวข้อที่ผู้คนในโซเชียลมีเดียให้ความสนใจอยู่เสมอ ภาพอาหารที่ดูแปลกตาและมีเอกลักษณ์มักกระตุ้นให้ผู้ใช้โซเชียลอยากแบ่งปันและมีส่วนร่วมในการสนทนาอยู่เสมอ และล่าสุด เราพบภาพไวรัลของเนื้อในก๋วยเตี๋ยวที่มีประกายสีรุ้ง โดยภาพดังกล่าวมีการแชร์ออกไปอย่างกว้างขวาง โพสต์บนโซเชียลมีเดีย เพจ Facebook เพจหนึ่งได้แชร์ภาพของเนื้อวัวที่มีเหลือบสีรุ้ง พร้อมคำบรรยายในภาพว่า “ว่ากันว่ามีแต่เศรษฐีเท่านั้นที่จะกินเนื้อวัวสายรุ้ง 7 สีนี้ได้ วัวตัวนี้คืออะไรเนี่ย?” Source | Archive โดยโพสต์ดังกล่าวได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก และมีการแชร์ต่อกว่า 230 ครั้ง รวมถึงมีการกดถูกใจกว่า 8,200 ครั้ง นอกจากนี้ผู้ใช้หลายๆ รายยังได้มาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับภาพดังกล่าวอย่างหลากหลาย เช่น “สีมีดติดครับ”, “ใส่สารเร่งเนื้อแดงครับแบบนี้”, “เจอบ่อยค่ะ ต้มขาหมูที่ตลาด ไม่กล้ากินกลัวตาย” นอกจากนี้เรายังพบภาพเดียวกันเป็นไวรัลในเพจภาษาอังกฤษด้วยเช่นกัน Source | Archive วิทยาศาสตร์เบื้องหลัง “เนื้อสีรุ้ง” สีสันแวววาวในเนื้อที่ดูคล้ายรุ้งที่เห็นในเนื้อ เกิดจากการที่แสงที่ทำปฏิกิริยากับโครงสร้างของเนื้อ เมื่อแสงตกกระทบชิ้นเนื้อ แสงก็จะหักเหออกเป็นสีต่างๆ คล้ายกับสายรุ้ง ซึ่งเป็นหลักการทำงานเดียวกันกับปริซึม โครงสร้างของเนื้อก็มีส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์นี้เช่นกัน โดยเนื้อสัตว์จะประกอบด้วยเส้นใยกล้ามเนื้อหลายมัดที่เรียงตัวในทิศทางที่แตกต่างกัน มุมของแสงที่สะท้อนจากเส้นใยเหล่านี้จึงอาจส่งผลต่อสีที่เรามองเห็นได้ นอกจากนี้ ในเนื้อสัตว์ยังมีเม็ดสีต่างๆ ที่ทำให้เกิดสีเหลือบรุ้งหรือสีเขียวเมื่อสัมผัสกับความร้อนและการแปรรูป อย่างไรก็ตาม สีรุ้งหรือเหลือบแวววาวที่เห็นไม่ได้หมายความว่าเนื้อสัตว์นั้นคุณภาพไม่ดีหรือไม่ปลอดภัยที่จะรับประทาน สีสันดังกล่าวเป็นเพียงปฏิกิริยาธรรมชาติที่เกิดจากแสงและโครงสร้างของเนื้อ ตัวอย่างภาพเนื้อสีรุ้งจาก Atmospheric […]

Continue Reading

รู้จักโควิดสายพันธุ์ใหม่ล่าสุด JN.1: ความรุนแรง อาการ และวิธีป้องกันตนเอง

ในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา อัตราผู้ป่วยจากโควิด-19 กลับมาเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง โดยศูนย์ควบคุมโรคติดต่อสหรัฐฯ (CDC) ได้ออกมาแถลงถึงการค้นพบเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งก็คือสายพันธุ์ JN.1 ข้อควรรู้เกี่ยวกับสายพันธุ์ใหม่จาก CDC โควิด-19 สายพันธุ์ JN.1 พัฒนามาจาก BA.2.86 โดยปัจจุบันสายพันธุ์ใหม่นี้dลายเป็นสายพันธุ์ที่แพร่เชื้อเร็วที่สุดในสหรัฐอเมริกา โดย ณ วันที่ 8 ธันวาคม 2023 พบผู้ป่วยจากสายพันธุ์ดังกล่าวประมาณ 15–29% แต่แม้ว่าจะมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังไม่พบข้อมูลที่สนับสนุนว่าสายพันธุ์ JN.1 เพิ่มความเสี่ยงของประชาชนมากยิ่งขึ้น เมื่อเทียบกับสายพันธุ์อื่นๆ ที่มีการระบาดอยู่ มีการคาดการณ์ว่า วัคซีนป้องกันโควิด-19 ในปัจจุบันจะสามารถป้องกัน JN.1 ได้ สายพันธุ์ JN.1 มีแนวโน้มจะไม่ก่อให้เกิดการป่วยที่รุนแรงกว่าสายพันธุ์อื่นๆ ก่อนหน้านี้ โดยอาการจากสายพันธุ์ JN.1 คล้ายคลึงกับอาการที่เกิดจากสายพันธุ์อื่นๆ ทั้งนี้อาจขึ้นอยู่กับสุขภาพและระดับภูมิคุ้มกันของแต่ละบุคคลด้วย โดยอาการทั่วไป ได้แก่ เจ็บคอ คัดจมูก น้ำมูกไหล ไอ เหนื่อยล้า และปวดศีรษะ แม้ว่าอาการป่วยจากโรคติดเชื้อโควิด-19 โดยรวมในปัจจุบันจะดูรุนแรงน้อยกว่าในปีที่ผ่านมา แต่ข้อมูลของ CDC […]

Continue Reading

ไขข้อสงสัย ควรแช่แผ่นมาสก์ในตู้เย็นหรือไม่?

การใช้แผ่นมาสก์บำรุงผิวหน้าเป็นอีกวิธีดูแลผิวที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน และเมื่อเร็วๆ นี้ เราพบข้อกล่าวอ้างที่ระบุว่าการนำแผ่นมาสก์หน้าไปแช่เย็นก่อนใช้งานทำให้แผ่นมาสก์เสื่อมประสิทธิภาพ เนื่องจากความเย็นจะทำให้รูขุมขนปิด โพสต์บนโซเชียลมีเดีย มีผู้ใช้บัญชี TikTok รายหนึ่งโพสต์วิดีโอพร้อมข้อกล่าวอ้างว่า การนำแผ่นมาสก์หน้าไปแช่เย็นก่อนใช้งานนั้นเป็นวิธีการที่ผิด จะทำให้ผลลัพธ์เท่ากับการไม่ใช้แผ่นมาสก์เลย โดยคลิปดังกล่าวมีการรับชมไปกว่า 1.9 ล้านครั้ง Source | Archive โดยคลิปวิดีโอดังกล่าวก็มีการแชร์ต่อในแพลตฟอร์ม X (Twitter) และมีการรับชมไปกว่า 3 ล้านครั้ง(Archive) ทำความเข้าใจหลักการทำงานของรูขุมขน เพื่อความเข้าใจอย่างถูกต้อง ก่อนอื่นต้องเจาะลึกถึงสรีรวิทยาของผิวหนังและผลกระทบของอุณหภูมิต่อรูขุมขน รูขุมขนไม่มีกล้ามเนื้อและไม่สามารถเปิดหรือปิดได้ แต่อุณหภูมิอาจส่งผลต่อลักษณะภายนอกของรูขุมขนได้ อุณหภูมิที่เย็นอาจทำให้รูขุมขนดูเล็กลงชั่วคราว และความร้อนอาจทำให้รูขุมขนดูใหญ่ขึ้น อย่างไรก็ตาม นี่เป็นการเปลี่ยนแปลงด้านรูปลักษณ์เท่านั้น และไม่ส่งผลต่อขนาดรูขุมขนจริงหรือความสามารถในการดูดซับส่วนผสมต่างๆ ในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอย่างมีนัยสำคัญ สกินแคร์ซึมลงสู่ผิวได้อย่างไร ผิวของคนเราดูดซึมสกินแคร์ผ่านหลายๆ ขั้นตอน โดยสามารถอธิบายอย่างง่ายได้ดังนี้ โครงสร้างของผิว: ผิวหนังประกอบด้วยสามชั้น โดยชั้นนอกสุดคือหนังกำพร้า (Epidermis) ต่อมาเป็นชั้นหนังแท้ (Dermis) และชั้นในสุดคือชั้นใต้ผิวหนัง (Hypodermis) เนื่องจากผิวของคนเราไม่ใช่ฟองน้ำ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวส่วนใหญ่ทำงานบนชั้นผิวภายนอกและจะเริ่มระเหยทันทีที่ทา การที่สารเคมีจะดูดซึมผ่านผิวหนังได้นั้นจะต้องผ่านผิวหนังชั้นนอก ต่อม หรือรูขุมขน ซึ่งต่อมเหงื่อและรูขุมขนกินพื้นที่เพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์ของผิว โดยการดูดซึมส่วนใหญ่เกิดขึ้นผ่าน “ผิวหนังชั้นนอก” วิธีที่ผิวหนังดูดซับผลิตภัณฑ์นั้นขึ้นอยู่กับสูตรและปริมาณของผลิตภัณฑ์ […]

Continue Reading

ข้อความว่ามีผู้ติดเชื้อ Vibrio valnificus จากการกินหอยดิบจนเสียชีวิต เป็นข้อมูลเท็จ

มีข้อความแพร่กระจายบนโซเชียลมีเดีย ระบุถึงอันตรายของเชื้อ Vibrio valnificus ซึ่งมาจากการรับประทานหอยแครงและหอยแมลงภู่แบบสุกๆ ดิบๆ พร้อมภาพผู้ป่วยเนื้อตาย โพสต์บนโซเชียลมีเดีย เราได้รับเบาะแสผ่านทางบัญชี LINE ตรวจสอบข้อเท็จจริงของเรา โดยมีข้อความที่แพร่กระจายในแพลตฟอร์ม LINE ถึงอันตรายของการรับประทานหอยแครงและหอยแมลงภู่แบบสุกๆ ดิบๆ โดยระบุว่า “เชื้อ vibrio valnificus ระยองมีแล้ว 2 ราย ตายทั้ง 2 ราย ในหอยแครงหอยแมลงภู่ สุกๆดิบๆ อาหารทะเล รพ. ระยอง 1 ราย รพ. แกลง 1 ราย” พร้อมภาพผู้ป่วยเนื้อตายที่บริเวณมือ ส่งข่าวให้เราช่วยตรวจสอบผ่านทาง LINE ได้ที่นี่ นอกจากใน LINE แล้ว เราพบว่าข้อความพร้อมรูปภาพดังกล่าวได้แพร่กระจายบน Facebook ด้วยเช่นเดียวกัน Source | Archive Source | Archive กรมควบคุมโรคชี้แจง ข้อมูลดังกล่าวเป็น “ข่าวปลอม” […]

Continue Reading

จริงหรือไม่: ทิชชูจากจีน มีสารปนเปื้อน ไม่ควรนำมาใช้กับร่างกาย

ทิชชูนำเข้าจากประเทศจีน กลายเป็นอีกผลิตภัณฑ์ที่เป็นที่นิยมในไทย เนื่องจากราคาที่ถูกกว่ากระดาษทิชชูไทยที่วางจำหน่ายตามท้องตลาด อย่างไรก็ตาม มีผู้ใช้หลายรายบนโซเชียลได้ออกมาเตือนภัยเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะเลขรหัสบนซองทิชชูที่ลงท้ายด้วย 810 และ 808 ซึ่งกลายเป็นประเด็นในสังคมออนไลน์เมื่อช่วงเร็วๆนี้ โพสต์บนโซเชียลมีเดีย ผู้ใช้ Facebook ได้ออกมาโพสต์เตือนภัยเกี่ยวกับกระดาษทิชชูที่นำเข้าจากจีน โดยระบุว่ารหัสลงท้าย 810 ด้านหลังบรรจุภัณฑ์ของทิชชูหมายถึงวัสดุของผลิตภัณฑ์ดังกล่าวทำมาจากทิชชูใช้แล้ว และมีการใช้สารฟอกขาวในกระบวนการผลิต Source | Archive Source | Archive ความหมายของรหัสทิชชู เลขรหัส 810 หรือ 808 มีรหัสเต็ม คือ GB/T 20808 และ GB/T 20810 เป็นรหัสตามมาตรฐานอุตสาหกรรมของประเทศจีน ที่เรียกว่า GuoBiao Standards หรือ GB standards โดยประเทศจีนได้กำหนดมาตรฐานไว้ 2 ขั้นคือ ขั้นบังคับ (Mandatory) ตามที่กฎหมายบังคับให้ทำตามเพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพของมนุษย์ และขั้นแนะนำ (Recommended) ซึ่งเป็นข้อกำหนดที่ไม่ได้มีการบังคับด้วยกฎหมาย โดยสามารถดูได้จากตัวรหัส ถ้าขึ้นต้นด้วย GB […]

Continue Reading

Astaxanthin ส่งผลอันตรายต่อตับ จริงหรือไม่?

มีโพสต์ไวรัลบนแพลตฟอร์ม X (Twitter) ที่ระบุว่าการรับประทานอาหารเสริม Astaxanthin ส่งผลให้ค่าตับสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยโพสต์ดังกล่าวถูกแชร์ต่อเป็นจำนวนมากภายในเวลาอันรวดเร็ว โดยผู้ใช้หลายรายก็แสดงความกังวลต่อข้อมูลดังกล่าว Fact Crescendo จึงตัดสินใจดำเนินการตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมในประเด็นดังกล่าว โพสต์บนโซเชียลมีเดีย ผู้ใช้ X รายหนึ่งได้โพสต์ข้อความว่า “อุทาหรณ์สอนใจสาวที่อยากสวย วันนี้ฉันไปตรวจสุขภาพมา พบว่า ค่าตับสูงผิดปกติมากก แบบผิดปกติจริงๆ หมอเฉพาะทางถามคำเดียว เธอกิน astaxanthin ใช่ไหม ฉันตอบ ใช่ค่ะ หมอบอกให้หยุดทันที เพราะเจอหลายเคสแล้วที่ทำตับอักเสบ (ไม่ใช่ทุกคน)” Source | Archive โดยโพสต์ดังกล่าวมีการแชร์ต่อจำนวนมาก และล่าสุดมีการรับชมไปแล้วกว่า 2.8 ล้านครั้ง Astaxanthin คืออะไร Astaxanthin (แอสตาแซนธิน) ซึ่งเป็นสารสีแดงที่จัดอยู่ในกลุ่มแคโรทีนอยด์ พบได้ในอาหารหลายชนิด เช่น สาหร่าย ปลาแซลมอน และกุ้ง เป็นสารที่ขึ้นชื่อในด้านการต้านอนุมูลอิสระ โดยมีประโยชน์ต่อสุขภาพสมอง สุขภาพดวงตา สุขภาพผิว และการสนับสนุนระบบภูมิคุ้มกัน งานศึกษาเกี่ยวกับ Astaxanthin และการส่งผลต่อดับ มีการศึกษาที่น่าเชื่อถือหลายชิ้น […]

Continue Reading