“แท็กซี่มอมยา” มีจริงหรือไม่?
จากที่มีวิดีโอนักแสดงรายหนึ่งออกมาเล่าประสบการณ์ในหัวข้อ Sexual Harrassment ผ่านรายการบน Youtube ของตน โดยกล่าวว่า เมื่อขึ้นแท็กซี่ คนขับได้หันแอร์รถมาตรงบริเวณที่นั่ง ทำให้เริ่มมีอาการมึนหัว จึงรีบเปิดประตูลง และคนขับแท็กซี่ก็ขับหนีด้วยความตกใจ นอกจากนี้ ยังระบุในคำบรรยายของรายการว่า “เคยโดนวางยาบนรถ” โดยผู้ใช้ทวิตเตอร์ได้แชร์คลิปดังกล่าวพร้อมตั้งข้อสงสัย โดยทวีตดังกล่าวก็มีการรับชมไปกว่าแปดหมื่นครั้ง
ทาง Fact Crescendo จึงดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงในประเด็นดังกล่าว
ผู้เชี่ยวชาญยืนยัน กรณีแท็กซี่มอมยาจากช่องแอร์ ‘ไม่มีจริง’
อาจารย์ ดร. สิทธิพร ภัทรดิลกรัตน์ จากภาคชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เคยอธิบายในรายการ Sci Find ตอน “ข่าวลือเรื่องแท็กซี่มอมยาผู้โดยสารเป็นเรื่องจริงแค่ไหน” โดยได้สรุปไว้ดังนี้
Q : กรณีที่มีข่าวแท็กซี่พ่นยาสลบผ่านช่องแอร์นั้น เป็นไปได้หรือไม่ A : เป็นไปไม่ได้ในทางปฏิบัติ เพราะอากาศที่ไหลเวียนอยู่ในรถจะทำให้คนขับรถได้รับยาสลบนั้นไปด้วย และสารเคมีที่ทำให้สลบได้ ต้องใช้เวลานานหลายนาทีมาก กว่าที่จะออกฤทธิ์ต่อสมองเพียงพอที่จะทำให้คนสลบ ส่วนยาสลบที่ออกฤทธิ์อย่างรวดเร็วเพียงไม่กี่วินาที ในทางการแพทย์นั้นจะอาศัยการฉีดยาเข้าเส้นเลือดโดยตรง
Q : การนั่งรถแท็กซี่แล้วเกิดอาการมึนงงเหมือนถูกมอมยา เกิดจากสาเหตุใด A : อาจเกิดจากอาการเมารถ ซึ่งเกิดจากระบบประสาทที่ควบคุมการทรงตัวตั้งแต่ "ตา เส้นประสาทที่กล้ามเนื้อ ระบบประสาทในหู และสมอง" ทำงานไม่สัมพันธ์กัน รวมทั้งสภาพภายในรถ เช่น กลิ่นอับ ทำให้เมารถได้โดยง่าย
อีกกรณีที่พบคือพิษจากแก๊สคาร์บอนมอนอกไซด์ (Carbon Monoxide) ไม่มีกลิ่น ถ้ารั่วซึมเข้ามาในห้องโดยสาร คาร์บอนมอนอกไซด์จะไปจับกับเม็ดเลือดแดงทำให้ขนส่งออกซิเจนไม่ได้ เกิดอาการเมารถ คลื่นเหียนอาเจียน จนหมดสติได้
Q : กรณีของการนำเอายานอนหลับมาใช้เป็นยาป้ายนั้น มีจริงหรือไม่ A : ปัจจุบัน มีความพยายามที่จะพัฒนายาสลบผ่านทางผิวหนัง ผ่านแผ่นแปะผิวหนังชนิดพิเศษ แต่เป็นเรื่องยากที่จะควบคุมให้ยาซึมผ่านผิวหนังชั้นนอกไปยังหลอดเลือดฝอยที่ผิวหนังชั้นในได้ในปริมาณที่เพียงพอ ส่วนยานอนหลับ มีการนำมาใช้ผสมน้ำหรืออาหารเพื่อก่ออาชญากรรมนั้น ไม่สามารถนำมาใช้ป้ายหรือพ่นได้
(ที่มา: รายการ Sci Find โดยกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี)
นอกจากนี้ เพจ ยารักษาใจ ซึ่งเป็นเพจอธิบายเรื่องยาโดยเภสัชกร ก็ได้สรุปประเด็นดังยาพ่นจากช่องแอร์ และยาป้าย จากกรณีที่อ้างว่า ‘แท็กซี่มอมยา’ ไว้ว่า
1. #ยาพ่นให้สลบจากหน้ากากแอร์ ไม่น่าเป็นไปได้ เนื่องจากกว่าที่คนเราจะสลบด้วยวิธีนี้ได้ ต้องใช้เวลา เพราะว่าการสูดยาสลบเข้าไป จะต้องมีการดูดซึมของยาจากปอดไปสู่เส้นเลือดปอดหมุนเวียนไปที่สมอง และยาสลบจึงออกฤทธิ์ที่สมองได้ ในทางปฏิบัติทุกวัน ถ้าสูดดมยาสลบที่ความเข้มข้นสูงๆโดยตรงจากเครื่องดมยาสลบ ยังต้องใช้เวลาเป็นนาทีกว่าจะหลับหรือสลบ ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้เลย ที่ยาที่บอกว่าพ่นมาจากช่องแอร์แท็กซี่จะทำให้หมดสติได้ โดยที่คนขับไม่เป็นอะไรไปเสียก่อน
2. #ยาป้าย ถ้าออกฤทธิ์ผ่านผิวหนังทำให้สลบก็เป็นไปไม่ได้เช่นกัน เนื่องจากผิวหนังมีชั้นของผิวหนังที่ทำหน้าที่เป็นปราการกั้นยาตามธรรมชาติ ยาที่จะซึมผ่านไปได้นั้นต้องมีความแรงมาก ใช้เวลานาน ในทางปฏิบัติต้องใช้แผ่นแปะยาแบบพิเศษ กว่ายาจะออกฤทธิ์ก็เป็นชั่วโมง การป้ายยาให้คนสลบจึงเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากกว่าจะซึมผ่านผิวหนังไปได้ต้องใช้ยาปริมาณมาก รอระยะเวลานาน อีกทั้งยังควบคุมไม่ได้ด้วย ว่ายาจะออกฤทธิ์แค่ไหน อย่างไร
ติดตามช่องทางอื่นๆ ของเรา เพื่อไม่ให้พลาดทุกข้อเท็จจริง
