เมื่อไม่นานมานี้ มีข้อกล่าวอ้างว่า “การกินแซนด์วิชเบคอนหนึ่งชิ้น = สูบบุหรี่สี่มวน” แพร่กระจายบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ซึ่งการเปรียบเทียบนี้ดึงดูดความสนใจผู้คนได้เป็นอย่างมาก โดยเน้นย้ำถึงความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งจากเนื้อสัตว์แปรรูป โดยเฉพาะจากเบคอน โดยข้อกล่าวอ้างนี้มีที่มาจากประกาศขององค์การวิจัยโรคมะเร็งนานาชาติ (International Agency for Research on Cancer: IARC) ในปี 2015 ซึ่งระบุว่าเนื้อสัตว์แปรรูปถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มสารก่อมะเร็งกลุ่มที่ 1 หรือ Group 1 carcinogens ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกับบุหรี่
โพสต์บนโซเชียลมีเดีย
เมื่อไม่นานมานี้ มีผู้ใช้โซเชียลมีเดียได้โพสต์ข้อความที่กล่าวว่า “กินแซนด์วิชเบคอนหนึ่งชิ้น = สูบบุหรี่ 4 มวน เบคอนเป็นสารก่อมะเร็งในกลุ่มที่ 1 และเรายังเสิร์ฟเบคอนในโรงพยาบาล… ถึงเวลาแล้วที่เบคอนควรมีคำเตือนสุขภาพบนถุง” ข้อความนี้ได้รับความสนใจอย่างมากทั้งบนแพลตฟอร์ม X (ชื่อเดิม Twitter) และ Facebook
เนื่องจากคำกล่าวนี้อาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดและความกังวลในหมู่ผู้อ่าน เราจึงตัดสินใจตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว
ตรวจสอบข้อเท็จจริง
“สารก่อมะเร็งกลุ่มที่ 1” หมายถึงอะไร?
สารก่อมะเร็งกลุ่มที่ 1 ที่จัดประเภทโดย IARC หมายถึง มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ว่าสารนั้นสามารถก่อมะเร็งได้ที่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม การจัดกลุ่มนี้พิจารณาเพียง ความชัดเจนของหลักฐาน ไม่ใช่ ระดับความเสี่ยง
ยกตัวอย่าง เช่น บุหรี่ ใยหิน และเนื้อสัตว์แปรรูป ซึ่งถูกจัดอยู่ในกลุ่มเดียวกัน เพราะมีหลักฐานชัดเจนว่าก่อมะเร็งได้ อย่างไรก็ตาม ผลกระทบต่อสุขภาพของสารแต่ละชนิดนั้นแตกต่างกันมาก
เบคอนมีความเสี่ยงแค่ไหน?
เนื้อสัตว์แปรรูป รวมถึงเบคอน ถูกพบว่ามีความเชื่อมโยงกับการเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่:
- การบริโภคเนื้อสัตว์แปรรูป 50 กรัมต่อวัน (ประมาณเบคอน 6 แผ่น) เพิ่มความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่ขึ้น 18%
- สำหรับคนทั่วไป ความเสี่ยงนี้หมายถึงโอกาสเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ตลอดชีวิตเพิ่มขึ้นจากประมาณ 5% เป็น 6% ซึ่งถือว่าเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับการสูบบุหรี่
แล้วการสูบบุหรี่ล่ะ?
การสูบบุหรี่มีอันตรายสูงกว่ามาก:
- การสูบบุหรี่เพิ่มความเสี่ยงมะเร็งปอดถึง 2,000% (หรือ 20 เท่าเมื่อเทียบกับคนที่ไม่สูบ)
- บุหรี่เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตจากมะเร็งประมาณ 1 ล้านคนต่อปีทั่วโลก ขณะที่การบริโภคเนื้อสัตว์แปรรูปเชื่อมโยงกับการเสียชีวิตประมาณ 34,000 คน
- นอกจากนี้ การสูบบุหรี่ยังเป็นสาเหตุของโรคหัวใจ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) และโรคร้ายแรงอื่น ๆ อีกมากมาย ส่วนความเสี่ยงจากเนื้อสัตว์แปรรูปมุ่งเน้นที่มะเร็งเพียงอย่างเดียว
การเสิร์ฟเบคอนในโรงพยาบาล
แม้จะมีการยืนยันถึงอันตรายของเนื้อแปรรูป แต่ในโรงพยาบาลหลายแห่งทั่วโลกยังคงเสิร์ฟเบคอนและอาหารแปรรูปอื่นๆ ซึ่งส่วนหนึ่งอาจเกิดจากความต้องการของผู้ป่วยและวัฒนธรรมอาหารในท้องถิ่น อย่างไรก็ตาม มีการรณรงค์จากกลุ่มต่างๆ เช่น Physicians Committee for Responsible Medicine (PCRM) ที่เรียกร้องให้ลดการเสิร์ฟเนื้อแปรรูปในโรงพยาบาล และเปลี่ยนไปใช้ตัวเลือกโปรตีนจากพืช เช่น ไส้กรอกพืชหรืออาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากกว่า เพื่อสอดคล้องกับบทบาทของโรงพยาบาลในฐานะสถานที่ส่งเสริมสุขภาพ
แม้ว่าเบคอนและบุหรี่จะถูกจัดอยู่ในสารก่อมะเร็งกลุ่มmuj 1 โดยองค์การวิจัยโรคมะเร็งนานาชาติ(IARC) แต่ผลการวิจัยชี้ให้เห็นว่า ทั้งสองอย่างมีผลกระทบต่อสุขภาพในระดับที่แตกต่างกัน การเปรียบเทียบนี้ดูเหมือนจะมีต้นกำเนิดจากความพยายามที่จะสร้างความตระหนักเกี่ยวกับการบริโภคเนื้อสัตว์แปรรูป อย่างไรก็ตาม การเปรียบเทียบทั้งสองสิ่งนี้โดยตรงไม่สอดคล้องกับหลักฐานทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับความเสี่ยงต่อสุขภาพที่แตกต่างกันของเบคอนและบุหรี่
เหตุใดการเปรียบเทียบเบคอนกับบุหรี่จึงชวนให้เข้าใจผิด
ระดับความเสี่ยง: ความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่จากการบริโภคเนื้อสัตว์แปรรูปเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย เช่น การบริโภคเนื้อสัตว์แปรรูปทุกวันเพิ่มความเสี่ยงตลอดชีวิตเพียง 1% ในขณะที่การสูบบุหรี่ทำให้เกิดมะเร็งปอดในผู้สูบระยะยาวประมาณ 20% ซึ่งมีผลกระทบต่อสุขภาพในระดับที่สูงกว่ามาก
สถิติในระดับโลก: เนื้อสัตว์แปรรูปก่อให้เกิดการเสียชีวิตจากมะเร็งประมาณ 34,000 คนต่อปีทั่วโลก ขณะที่การสูบบุหรี่ทำให้เกิดการเสียชีวิตจากมะเร็ง 1 ล้านคนต่อปี และยังเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตจากโรคอื่นๆ อีกจำนวนมาก
ความถี่และปริมาณ: แม้ว่าบางคนอาจบริโภคเนื้อสัตว์แปรรูปทุกวัน แต่ความเสี่ยงขึ้นอยู่กับปริมาณ การกินแซนด์วิชเบคอนเพียงครั้งคราวไม่ได้เท่ากับความเสี่ยงสะสมจากการสูบบุหรี่วันละ 4 มวน
ผลกระทบต่อสุขภาพอื่นๆ: การสูบบุหรี่ส่งผลต่อโรคร้ายแรงหลายประเภทนอกจากมะเร็ง เช่น โรคหัวใจและโรคหลอดเลือดสมอง ในขณะที่เนื้อสัตว์แปรรูปเพิ่มความเสี่ยงเฉพาะมะเร็งลำไส้ใหญ่เท่านั้น
สรุป
คำกล่าวที่ว่า “กินแซนด์วิชเบคอน = สูบบุหรี่ 4 มวน” เป็นการเปรียบเทียบที่ไม่ถูกต้อง แม้ว่าเบคอนและบุหรี่จะถูกจัดอยู่ในกลุ่มสารก่อมะเร็งกลุ่มที่ 1 แต่การจัดกลุ่มนี้สะท้อนความชัดเจนของหลักฐาน ไม่ใช่ระดับความเสี่ยง การกินเนื้อสัตว์แปรรูปทุกวันเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งเพียงเล็กน้อย เมื่อเทียบกับอันตรายจากการสูบบุหรี่ที่สูงกว่ามาก การเปรียบเทียบเช่นนี้เป็นการลดทอนความซับซ้อนของวิทยาศาสตร์ และทำให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน
คำแนะนำทางสุขภาพคือ บริโภคเนื้อสัตว์แปรรูปอย่างพอเหมาะ และหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่โดยสิ้นเชิง การรับประทานอาหารอย่างสมดุลและมีวิถีชีวิตที่ดีต่อสุขภาพ (เช่น พักผ่อนเพียงพอ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ) จะช่วยลดความเสี่ยงมะเร็งได้ดีกว่าการมุ่งเน้นแค่พฤติกรรมใดพฤติกรรมหนึ่งอย่างเดียว
ที่มา: