
มีวิดีโอไวรัลในโซเชียลมีเดียที่แสดงวิธีการนวดหน้าด้วยตนเอง เช่น การนวดยกขึ้นบริเวณหน้าผาก และการนวดวนเป็นวงกลมบริเวณแก้ม พร้อมอ้างว่าสามารถช่วยลดริ้วรอยและให้ผลลัพธ์ในการชะลอวัยได้ แม้งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์บางชิ้นจะยืนยันว่าการนวดมีประโยชน์จริง แต่หลักฐานที่มีอยู่ไม่ได้แสดงผลลัพธ์ที่ “น่าทึ่ง” อย่างที่โซเชียลมีเดียมักกล่าวอ้าง
โพสต์บนโซเชียลมีเดีย
มีวิดีโอไวรัลในโซเชียลมีเดียที่สาธิตวิธีการนวดหน้าด้วยตนเองพร้อมข้อความบรรยายว่า “นวดหน้าเพื่อกำจัดริ้วรอยเลย” โดยวิดีโอดังกล่าวได้รับความสนใจและมีการแชร์ต่ออย่างแพร่หลาย
ตรวจสอบข้อเท็จจริง
การเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างที่วัดได้
งานวิจัยบางชิ้นชี้ว่า การนวดหน้ามีผลมากกว่าความรู้สึกผ่อนคลายเท่านั้น เพราะยังสามารถก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยแต่ตรวจวัดได้ในโครงสร้างใบหน้าได้จริง ๆ ด้วย งานวิจัยหนึ่งที่ตีพิมพ์ในปี 2022 ในวารสาร Skin Research and Technology ใช้การสแกนซีที (CT scans) เพื่อติดตามผลของการที่ผู้เข้าร่วมทดลองนวดหน้าด้วยตนเองวันละสองครั้ง เป็นระยะเวลาสองสัปดาห์
ผลลัพธ์ที่ได้ถือว่าน่าสนใจ ผู้เข้าร่วมแสดงให้เห็นถึงการลดลงเล็กน้อยของไขมันบริเวณแก้ม การยกตัวขึ้นเล็กน้อยของเนื้อเยื่อ และการเพิ่มขึ้นของความสูงของชั้นเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน (connective layer) ซึ่งมีหน้าที่ช่วยพยุงให้ผิวคงความกระชับอยู่เสมอ นักวิจัยสรุปว่าการนวดหน้าส่งผลให้เกิด “การยกกระชับผิวอย่างแท้จริง”
อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือ ขนาดกลุ่มตัวอย่างของการศึกษานี้มีจำนวนจำกัด และระยะเวลาทดลองเพียงสองสัปดาห์เท่านั้น ทำให้ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จะคงอยู่ในระยะยาวหรือไม่ ถึงกระนั้น งานวิจัยดังกล่าวก็ถือเป็นหลักฐานเบื้องต้นที่บ่งชี้ว่า การนวดหน้าอาจสร้างความเปลี่ยนแปลงทางกายภาพในเนื้อเยื่อใบหน้าได้จริง ไม่ใช่เพียงแค่ช่วยให้รูปลักษณ์ดีขึ้นชั่วคราวเท่านั้น
การกระตุ้นโปรตีนและคอลลาเจนในผิว
อีกหนึ่งหลักฐานที่สนับสนุนประโยชน์ของการนวดหน้า มาจากงานวิจัยในห้องปฏิบัติการที่ศึกษาระดับเซลล์ของผิวโดยตรง งานวิจัยในปี 2017 ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจากลอรีอัล (L’Oréal) และตีพิมพ์ในวารสาร PLoS One พบว่า เมื่อการนวดถูกใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ผิวจะผลิตโปรตีนที่ช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่นและกระชับมากขึ้น โดยเฉพาะ tropoelastin ซึ่งเป็นสารตั้งต้นของอีลาสติน และ procollagen-1 ซึ่งเป็นสารตั้งต้นของคอลลาเจน
ผู้เข้าร่วมการทดลองยังมีการเปลี่ยนแปลงให้เห็นชัดขึ้นในชีวิตจริง ริ้วรอยบริเวณหน้าผากและแก้มดูตื้นขึ้นหลังจากนวดต่อเนื่องแปดสัปดาห์ ซึ่งชี้ว่าการนวดหน้าอาจช่วยให้ผิวตอบสนองต่อผลิตภัณฑ์ได้ดีขึ้น และกระตุ้นกระบวนการสร้างความกระชับจากภายใน
อย่างไรก็ตาม งานวิจัยนี้มาจากการสนับสนุนของอุตสาหกรรมความงาม และยังมีนักวิจัยอิสระเพียงไม่กี่คนที่ตรวจสอบผลลัพธ์เหล่านี้ซ้ำ จึงควรมองว่าเป็นข้อมูลเบื้องต้นมากกว่าเป็นข้อสรุป
ประโยชน์ต่อการไหลเวียนของเลือด
หนึ่งในผลลัพธ์ที่นักวิจัยพบอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับการนวดหน้าคือ ผลต่อการไหลเวียนโลหิต เมื่อเราถูนวดหรือใช้ลูกกลิ้งกลิ้งบนผิว เส้นเลือดจะขยายตัว ทำให้เลือดไหลเวียนสู่บริเวณนั้นมากขึ้น งานวิจัยในปี 2018 ระบุว่า การใช้ลูกกลิ้งนวดหน้าไม่เพียงช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดได้ทันทีหลังการนวด แต่หากทำต่อเนื่องยังช่วยให้ผิวตอบสนองต่ออุณหภูมิได้ดีขึ้นภายในไม่กี่สัปดาห์
เมื่อเลือดไหลเวียนดีขึ้น เซลล์ผิวก็ได้รับออกซิเจนและสารอาหารมากขึ้น ส่งผลให้ผิวดูเปล่งปลั่ง สุขภาพดี และมีการซ่อมแซมตัวเองได้ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์เหล่านี้มีลักษณะชั่วคราว มักคงอยู่เพียงช่วงสั้น ๆ หลังการนวดเท่านั้น จึงไม่ควรเข้าใจว่าเป็นวิธีแก้ปัญหาริ้วรอยหรือความร่วงโรยของผิวในระยะยาว (แหล่งที่มา: Healthline; Kaizen Health Group)
กลไกการทำงานของการนวดหน้าและมุมมองจากผู้เชี่ยวชาญ
นอกจากช่วยเรื่องการไหลเวียนโลหิตแล้ว ผู้เชี่ยวชาญยังชี้ว่าการนวดหน้ายังส่งผลดีต่อผิวได้อีกสองทางสำคัญ
ประการแรก คือ การช่วยกระตุ้น ระบบน้ำเหลือง (lymphatic system) ซึ่งมีหน้าที่ขนส่งของเหลวและของเสียในร่างกาย การนวดอย่างอ่อนโยนสามารถช่วยลดอาการบวมหรือหน้าบวม ช่วยระบายน้ำส่วนเกินออกจากใบหน้า และเมื่อทำอย่างสม่ำเสมอ ยังช่วยให้กรอบหน้าดูกระชับและได้รูปมากขึ้น
ประการที่สอง นักวิทยาศาสตร์เสนอแนวคิดเรื่อง กลไกการรับแรงของเซลล์ (mechanotransduction) หมายถึง เมื่อเรากดหรือยืดผิว เซลล์ผิวจะตอบสนองโดยกระตุ้นให้ “ไฟโบรบลาสต์” ซึ่งเป็นเซลล์ที่สร้างคอลลาเจนทำงานมากขึ้น กลไกนี้อาจเป็นเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ที่อธิบายได้ว่าทำไมการนวดหน้าจึงอาจช่วยให้ผิวดูกระชับและดูมีสุขภาพดีขึ้น (ที่มา)
นอกจากนี้ รายงานในปี 2025 ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Dermatology Times*ยังสรุปว่า เครื่องมือนวดหน้าอย่างกัวซา (gua sha) และลูกกลิ้ง (roller) สามารถช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและความกระชับของผิวได้จริงในระดับที่วัดผลได้ ทั้งยังปลอดภัยและไม่ต้องพักฟื้นเหมือนหัตถการเสริมความงามบางประเภทอีกด้วย
มุมมองโต้แย้งและข้อจำกัดของการนวดหน้า
แม้ว่างานวิจัยบางชิ้นจะให้ผลที่ดูมีความหวัง แต่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญยังแนะนำให้มองอย่างระมัดระวัง เว็บไซต์ Medical News Today ระบุว่า ยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ชัดเจนว่าการนวดหน้าช่วยลดริ้วรอยหรือชะลอวัยได้จริง เพราะงานวิจัยส่วนใหญ่มีขนาดเล็ก ทำในระยะเวลาสั้น และหลายชิ้นก็ได้รับทุนจากบริษัทเครื่องสำอาง
ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวบางคนมองต่างออกไป ในบทความของ The Conversation มีการอธิบายว่าการนวดอาจส่งผลต่อเส้นใยคอลลาเจน ซึ่งอาจช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่นขึ้นได้ในระยะยาว อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ย้ำว่า เมื่ออายุมากขึ้น เซลล์ที่สร้างคอลลาเจนของร่างกายจะทำงานช้าลง และการนวดเพียงอย่างเดียวอาจไม่สามารถเปลี่ยนแปลงกระบวนการนี้ได้มากนัก
ทางด้าน Cleveland Clinic ก็ระบุความเห็นในแนวที่สอดคล้องกัน โดยระบุว่า ยังต้องมีงานวิจัยเพิ่มเติมก่อนที่จะยืนยันได้ว่าการนวดหน้ามีผลต้านวัยจริง แพทย์ผิวหนังจึงยังไม่สามารถแนะนำให้ใช้เป็นวิธีดูแลผิวหลักได้ในตอนนี้ อีกทั้งยังมีข้อสังเกตที่น่าสนใจว่า คลิปนวดหน้าหลายคลิปมักโฆษณาว่าช่วย “ทำให้หน้าเรียวขึ้น” ด้วยการระบายน้ำส่วนเกิน แต่ผลิตภัณฑ์ต้านวัยหลายชนิดกลับมุ่ง “เพิ่มความอิ่มฟู” เพื่อให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าความเชื่อเรื่องการนวดหน้ายังมีความขัดแย้งกันอยู่ไม่น้อย
มุมมองจากผู้เชี่ยวชาญ
ผู้เชี่ยวชาญมีความเห็นหลากหลายเกี่ยวกับประสิทธิภาพของการนวดหน้า แพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังบางรายยอมรับว่า การนวดช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต คลายความตึงของกล้ามเนื้อใบหน้า และอาจช่วยให้ผิวดูดซึมผลิตภัณฑ์บำรุงได้ดีขึ้น ผลเหล่านี้อาจทำให้การนวดหน้าเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลผิวที่ดีได้ แต่ยังจำเป็นต้องมีการศึกษาระยะยาวเพิ่มเติมเพื่อยืนยันผลลัพธ์อย่างชัดเจน
ขณะเดียวกัน วารสารทางการแพทย์หลายแห่งยังคงตั้งข้อสงสัย โดยชี้ว่ายังไม่มีงานวิจัยขนาดใหญ่ที่มีคุณภาพเพียงพอจะพิสูจน์ว่าการนวดหน้ามีผลต้านวัยจริง จึงควรมองว่าการนวดเป็นเพียงแนวทางดูแลสุขภาพเสริม มากกว่าจะเป็น “วิธีมหัศจรรย์” ในการย้อนวัยของผิว (ที่มา)
นพ.ชาคริต พิมพ์สอน วิสัญญีแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ความงามจากจังหวัดขอนแก่น ให้ความเห็นกับทีม Fact Crescendo ว่าการนวดเพียงอย่างเดียวไม่น่าจะช่วยลดริ้วรอยหน้าผากได้อย่างถาวร “หลังการนวดในลักษณะนี้ ผิวอาจรู้สึกตึงขึ้นเล็กน้อย แต่ผลลัพธ์มักอยู่ได้ไม่นาน และผิวก็จะกลับสู่สภาพเดิมในไม่กี่นาท” พร้อมเปรียบเทียบว่าผลลัพธ์คล้ายกับอุปกรณ์นวดหน้าบางชนิดที่ให้ความรู้สึกกระชับชั่วคราวโดยไม่ได้เปลี่ยนโครงสร้างผิวจริงๆ
นอกจากนี้ นายแพทย์ชาคริตยังให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า เทคนิคที่แสดงในคลิปไวรัลนี้อาจแรงเกินไป “ยิ่งกดแรงมากเท่าไร ก็ยิ่งเสี่ยงทำให้ผิวเกิดรอยพับหรือย่น ซึ่งอาจทำให้บางส่วนดูตึงแต่บางส่วนกลับย่นมากขึ้น กลายเป็นให้ผลลัพธ์ตรงข้ามกับที่คาดหวัง”
สรุป
จากการตรวจสอบ การนวดหน้ามีประโยชน์จริง แต่ผลลัพธ์ค่อนข้างจำกัด การนวดสามารถช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ส่งเสริมการทำงานของระบบน้ำเหลือง และอาจทำให้เนื้อเยื่อผิวเกิดการเปลี่ยนแปลงที่สังเกตเห็นได้เล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ชัดเจนเพียงพอจะยืนยันว่าการนวดหน้าช่วยลดหรือต่อต้านริ้วรอยได้อย่างเห็นผลจริง
โดยรวมแล้ว การนวดหน้าอาจเป็นส่วนเสริมที่ดีในขั้นตอนการดูแลผิว ช่วยให้ผิวรู้สึกสดชื่นและผ่อนคลายมากขึ้น แต่ควรมองว่าเป็นวิธีดูแลผิวเสริม มากกว่าวิธีการเดียวที่จะเปลี่ยนแปลงผิวได้อย่างถาวร