ทำท่าก้มหัวไม่ได้ช่วยเช็กความเสี่ยงโรคเส้นเลือดสมองตีบ

จากที่มีการแชร์ข้อความพร้อมวิดีโอในไลน์ และโซเชียลต่างๆ โดยอ้างว่าการทำท่าก้มหัวตามคลิปวิดีโอดังกล่าวจะสามารถเช็กความเสี่ยงในการเป็นโรคเส้นเลือดในสมองตีบได้ โดยคลิปลักษณะดังกล่าวถูกแชร์อย่างกว้างขวาง  Source: Line | Archive Source | Archive โดยคลิปลักษณะดังกล่าวอ้างว่าการเป็นตรวจเช็กอาการหลอดเลือดตีบที่สมอง ซึ่งไม่สามารถตรวจเจอได้ในแพทย์แผนปัจจุบัน และอธิบายในคลิปว่า หากก้มหัวไปแล้วมีอาการเวียนหัว หูอื้อ แน่นจมูก หรือปวดเบ้าตาแปลว่าอาจมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคหลอดเลือดในสมองตีบ Fact Crescendo พบว่าข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริง และอาการเวียนหัว หูอื้อ แน่นจมูก หรือปวดเบ้าตาที่อาจจะเกิดเมื่อทำท่าที่อ้างในคลิปนั้นสามารถเกิดขึ้นได้ตามปกติเมื่อคนเราก้มหัวเป็นระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งระยะเวลาที่อาจเกิดอาการจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ตรวจสอบข้อเท็จจริง เราได้ทำการตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับความเชื่อมโยงของการก้มหัวและอาการเส้นเลือดในสมองตีบ และพบแหล่งข่าวหลายแห่งที่ยืนยันว่าคลิปดังกล่าวเป็นข้อมูลเท็จ โดยทางสำนักข่าวไทยได้เข้าไปสัมภาษณ์นายแพทย์ธน ธีระวรวงศ์ แพทย์ผู้ชำนาญการพิเศษด้านประสาทวิทยา สถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ ซึ่งได้ยืนยันท่าก้มหัวในคลิปนั้นไม่สามารถใช้เช็กความเสี่ยงในการเป็นหลอดเลือดตีบในสมองได้ และอาการที่อ้างถึงในคลิปว่าอาจเป็นสัญญาณของโรคได้ จริงๆ แล้วเป็นอาการที่สามารถเกิดขึ้นได้ตามปกติเมื่อเราก้มหัว และท่าก้มหัวในคลิปนั้นไม่สามารถใช้เช็กอาการใดๆ เกี่ยวกับสมองได้ โดยหากต้องการเช็กว่ามีความเสี่ยงในการเป็นโรคทางสมองหรือไม่ ก็ทำได้โดยการเข้ามาตรวจร่างกายและระบบประสาท ซึ่งสามารถคัดกรองโรคทางสมองได้ค่อนข้างมากแล้ว และหากต้องการตรวจแบบเฉพาะ ก็สามารถตรวจโดยการเอกซเรย์สมองเพิ่มเติม ซึ่งสามารถทำได้ในโรงพยาบาลทั่วไป นอกจากนี้ นายแพทย์ธนยังเพิ่มเติมเกี่ยวกับอาการโรคหลอดเลือดทางสมองที่ควรสังเกตว่า หากมีอาการ พูดไม่ออกหรือพูดไม่ชัดทันทีทันใด แขนขาอ่อนแรงครึ่งซีก หรือสูญเสียการทางตัวกะทันหัน ควรไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุด เพื่อรับการรักษาอย่างทันท่วงที สรุป […]

Continue Reading

เมล็ดฟักทองไม่ได้ช่วยขับพยาธิหรือปรสิต

จากคลิปวิดีโอบนแพลตฟอร์มติ๊กต็อกที่มีการแชร์ข้อมูลว่า การต้มเมล็ดฟักทองผสมกับเกลือและกระเทียม จะช่วยขับพยาธิที่ตกค้างออกจากร่างกายได้ โดยวิดีโอดังกล่าวมีผู้ชมไปแล้วถึง 10 ล้านครั้ง มีการแชร์กว่า 14,000 ครั้ง และได้รับการกดถูกใจกว่าสี่แสนครั้ง Source | Archive ทางทีมงาน Fact Crescendo จึงได้ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว โดยทางทีมงานไม่พบความเกี่ยวข้องในการรักษาโรคหรือกำจัดพยาธิโดยการใช้เมล็ดฟักทอง เกลือ และกระเทียมร่วมกัน และพบว่ามีบทความจากสถาบันและแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่ออกมายืนยันแล้วว่าเป็นข้อมูลเท็จ และเมล็ดฟักทองไม่สามารถใช้เพื่อกำจัดพยาธิได้ (อ่านข้อมูลยืนยันเพิ่มเติมจากอย. ได้ที่นี่) (ที่มา: สำนักคณะกรรมการอาหารและยา) ข้อกล่าวอ้าง คลิปวิดีโอหนึ่งบนติ๊กต็อกกล่าวว่าเมื่อต้มเมล็ดฟักทองผสมกับเกลือและกระเทียม จะมีฤทธิ์ช่วยขับพยาธิที่ตกค้างออกจากร่างกายได้ ตรวจสอบข้อเท็จจริง ทีมงานได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยการหาแหล่งอ้างอิงของข้อมูลดังกล่าว พบว่ามีเว็บไซต์ต่างประเทศหลายแห่งที่โพสต์ข้อมูลที่คล้ายคลึงกันนี้ โดยอ้างว่าสารในเมล็ดฟักทองจะช่วยกำจัดพยาธิและเชื้อโรคต่างๆ ออกจากร่างกาย อย่างไรก็ตาม ทางทีมงานยังไม่พบงานวิจัยหรือการศึกษาใดๆ ที่ยืนยันได้ว่าการกินเมล็ดฟักทองจะช่วยขับพยาธิได้จริง ตัวอย่างโพสต์จากเฟซบุ๊กที่กล่าวอ้างถึงสรรพคุณของเมล็ดฟักทอง แต่ทางเฟซบุ๊กได้ขึ้นข้อความเตือนในโพสต์ดังกล่าวแล้วว่าเป็นข้อมูลเท็จ Source | Archive นอกจากนี้ USAToday ก็ได้เผยแพร่บทความชี้แจงเช่นกันว่าเมล็ดฟักทองไม่สามารถขจัดพยาธิหรือปรสิตออกจากร่างกายได้ โดย Dr. Amita Gupta แพทย์เฉพาะทางด้านโรคติดเชื้อได้อธิบายว่า “เมล็ดฟักทองมีสารประกอบที่ชื่อว่า ‘คิวเคอร์บิติน’ และ ‘คิวเคอร์บิตาซิน’ […]

Continue Reading

 กินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปดิบไม่ได้ก่อให้เกิดภาวะช็อก

ในสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีการแชร์รูปภาพและข้อความเตือนถึงอันตรายของการกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบดิบในแพลตฟอร์มต่างๆ โดยมีกระแสพูดถึงและการแชร์ต่ออย่างกว้างขวาง เมื่อทาง Fact Crescendo ทำการตรวจสอบเนื้อหาในรูปภาพดังกล่าวก็ได้พบว่าเป็นพาดหัวที่ชวนให้เข้าใจผิด คำกล่าวอ้าง เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายนที่ผ่านมา มีผู้ใช้ทวิตเตอร์ได้แชร์รูปภาพพร้อมข้อความสื่อถึงอันตรายของกินการบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปดิบบนแพลตฟอร์ม โดยข้อความระบุว่า “เตือน! อย่ากินดิบ ยิ่งใส่ผงปรุงแล้วเขย่า ยิ่งแย่ สสส. เตือนบะหมี่จะพองในท้องจนเกิดภาวะช็อก โซเดียมเข้าร่างกายเต็มๆ สูงเกินปริมาณรับไหว”  Source นอกจากนี้ยังมีการแชร์รูปภาพเดียวกันในเพจเฟซบุ๊กเพจหนึ่ง ซึ่งมีการแชร์ไปแล้วกว่า 2,000 ครั้ง รวมถึงมีผู้ใช้เข้าไปแสดงความคิดเห็นมากมาย Source | Archive โดยรูปภาพจากโพสต์ดังกล่าวระบุว่า สสส. หรือสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพได้ออกมาเตือนว่าการรับประทานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบดิบนั้นจะทำให้บะหมี่พองในท้อง และก่อให้เกิดภาวะช็อกได้ ตรวจสอบข้อเท็จจริง เมื่อทางทีมงาน FactCrescendo ได้ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงก็ได้พบว่า สสส. ไม่ได้ออกคำเตือนหรือข้อห้ามดังกล่าวแต่อย่างใด ทางหน่วยงานเพียงแค่จัดกิจกรรมส่งเสริมให้ประชาชนลดการกินเค็ม เนื่องจากอัตราการบริโภคโซเดียมต่อวันของคนไทยอยู่ในปริมาณที่สูงเกินปริมาณองค์การอนามัยโลกที่แนะนำต่อวัน โดย สสส. ได้ชี้แจงว่า “ที่ผ่านมาทาง สสส. ได้ร่วมกับเครือข่ายลดการบริโภคเค็ม ส่งเสริมประชาชนลดการบริโภคโซเดียมเพื่อลดเสี่ยงโรค NCDs โดยปี 2563 คนไทยมีอัตราการบริโภคโซเดียมเฉลี่ย 3,636 มก./วัน ซึ่งเกินมาตรฐานที่องค์การอนามัยโลก […]

Continue Reading