สรุปประเด็นสถานการณ์การเมืองในสัปดาห์ของการ #โหวตนายกรอบ3

โหวตนายกฯ รอบ 3

เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมา ในการประชุมรัฐสภา วาระพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคล ซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 272 ของรัฐธรรมนูญ ที่มีการเสนอชื่อนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตจากพรรคเพื่อไทย และที่ประชุมมีมติเห็นชอบ 482 เสียง ไม่เห็นชอบ 165 เสียง และงดออกเสียง 81 เสียง ส่งผลให้นายเศรษฐา ทวีสิน ได้รับการโหวตเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย

โดยสามารถดูผลโหวตและรายละเอียดการลงเสียงได้ที่นี่

และในวันนี้ (23 สิงหาคม) นายคัมภีร์ ดิษฐากรณ์ โฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร ระบุว่า หลังจากที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาวานนี้ (22 ส.ค.) ลงมติให้นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ประธานรัฐสภา ได้ลงนาม เพื่อกราบบังคมทูลถึงผลการเลือกนายกรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 เรียบร้อยแล้ว แต่หนังสือยังมาไม่ถึง โดยในวันนี้ทางสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จะเข้ารับหนังสือและนำหนังสือไปที่สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อประทับตราพระราชลัญจกร และนำกลับมาที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ก่อนจะนำพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งฯ ไปยังพรรคเพื่อไทยในเวลา 18.00 น.

อดีตนายกฯ ทักษิณ กลับถึงประเทศไทยแล้ว

เช้าวันที่ 22 สิงหาคม นายทักษิณ ชิณวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัว จากสนามบินชางงี ประเทศสิงคโปร์ ถึงสนามบินดอนเมือง ประเทศไทย ในเวลา 9.00 น. โดยเป็นการกลับไทยครั้งแรกในรอบ 17 ปี โดยหลังจากถึงสนามบินดอนเมืองแล้ว นายทักษิณได้เดินทางไปรับหมายที่ศาลฎีกา ก่อนที่จะมีการคุมตัวไปที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดยหลังจากตรวจตรวจสุขภาพพบว่าอยู่ในกลุ่มเปราะบาง จึงต้องแยกคุมขังเดี่ยว

และในคืนวันที่ 22 มีรายงานข่าวว่านายทักษิณมีอาการอ่อนเพลีย และมีปัญหาเรื่องระบบทางเดินหายใจ จึงได้มีการนำตัวส่งโรงพยาบาลตำรวจเพื่อทำการรักษาในลำดับถัดไป

ก้าวไกลประกาศเป็นฝ่ายค้าน

หลังจากผลการโหวตนายกเป็นที่สิ้นสุดแล้ว นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนพร้อมสส. พรรค ระบุว่าพรรคก้าวไกลจะทำงานในฐานะพรรคฝ่ายค้าน โดยกล่าวว่า “การจัดตั้งรัฐบาลในครั้งนี้ มิใช่สลายขั้วความขัดแย้งโดยเอาวาระของประชาชนและวาระของประเทศเป็นตัวตั้ง แต่นี่เป็นการสยบยอมและต่อลมหายใจต่อระบบการเมืองที่คณะรัฐประหารเมื่อปี 2557 พยายามที่จะสถาปนาขึ้น และ เป็นการทำลายความหวังของประชาชนตามระบอบประชาธิปไตย แน่นอนต่อจากนี้ไปพรรคก้าวไกล จะทำงานในฐานะพรรคฝ่ายค้าน โดยเราจะเป็นฝ่ายค้านเชิงรุก ทุกเสียงของพี่น้องประชาชนที่มอบให้กับพรรคก้าวไกลต้องมีความหมาย ผู้แทนราษฎรของพรรคก้าวไกลทุกคน จะทำงานอย่างสุดความสามารถ ทั้งในด้านการตรวจสอบฝ่ายบริหาร ทั้งในด้านการผลักดันกฎหมายที่ก้าวหน้า ทั้งในด้านการผลักดันในวาระของประชาชนผ่านกลไกต่างๆ ของสภาฯ รวมทั้งการทำงานกับประชาชนนอกสภาฯ เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงร่วมกันอย่างไม่ท้อถอย”

ส่วนในกรณีการเป็นผู้นำฝ่ายค้านหรือไม่นั้น นายชัยธวัช ระบุว่า เรื่องนี้ต้องนำไปพิจารณากันภายในพรรค และนอกจากพรรคก้าวไกลแล้ว ยังมีพรรคไทยสร้างไทย และพรรคเป็นธรรม ที่ประกาศร่วมเป็นฝ่ายค้าน นอกจากนี้ยังคาดว่าจะมีพรรคประชาธิปัตย์ พรรคประชาธิปไตยใหม่ พรรคใหม่ และพรรคครูไทยเพื่อประชาชน

• ที่มา:
• ThaiPBS: (1), (2), (3)
• TNN: (1), (2)
• Thairath: (1), (2)
• PPTV
• LINE Today