การเลือกตั้งใหญ่ปี 2566 ของประเทศไทยได้สิ้นสุดลงแล้วเมื่อเย็นวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการจาก กกต. ขณะนี้ พรรคก้าวไกลครองเสียงข้างมากถึง 150 ที่นั่งในสภา ส่งผลให้ก้าวไกลกลายเป็นพรรคที่ได้รับเสียงข้างมาก เคียงคู่มากับพรรคเพื่อไทย ที่ปัจจุบันได้ 140 ที่นั่งในสภา และเนื่องจากทั้งสองพรรคมีจุดยืนหลักเดียวกันคือ “ไม่เข้าร่วมกับ 3 ป.” จึงมีความเป็นไปได้สูงมากว่าทั้งพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยจะจับมือกันตั้งรัฐบาลในฐานะพรรคเสียงข้างมาก

อย่างไรก็ตาม แม้ทั้งสองพรรคจะมีเสียงในสภารวมกันถึง 290 เสียง จาก 500 เสียง ก็ยังไม่สามารถการันตีได้ว่าจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลและเป็นนายกรัฐมนตรีได้ เนื่องจากตามบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญปี 2560 มีการให้ส.ว.อีก 250 เสียงร่วมโหวตนายกรัฐมนตรีได้ รวมเสียงที่สามารถโหวตนายกรัฐมนตรีจึงมีทั้งหมด 750 เสียง

ส.ว. มาจากไหนบ้าง?

ส.ว. 250 คน จัดตั้งมาจาก 3 กลุ่ม

กลุ่มแรก มาจากคณะกรรมการสรรหา ส.ว. เลือกบุคคลที่เหมาะสมมา 400 คน แล้วส่งรายชื่อให้ คสช. และเลือกรอบสุดท้ายเหลือ 194 คน ซึ่งคณะกรรมการสรรหา ส.ว. ก็มาจาก คสช. เช่นกัน โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นประธาน

กลุ่มที่สอง มาจาก กกต. รับสมัครทั่วประเทศ แล้วให้ผู้สมัคร ส.ว. โหวตเลือกกันเองเหลือ 200 คน ก่อนส่งรายชื่อให้ คสช. เลือกรอบสุดท้ายเหลือ 50 คน

และกลุ่มสุดท้าย ส.ว. โดยตำแหน่ง 6 คน ประกอบด้วย ผู้บัญชาการทหารบก, ผู้บัญชาการทหารอากาศ, ผู้บัญชาการทหารเรือ, ผู้บัญชาการทหารสูงสุด, ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และปลัดกระทรวงกลาโหม รวมทั้งหมดเป็น 250 คน

ข้อมูลจาก: Workpoint TODAY

โดยในการจัดตั้งรัฐบาลปี 2562 ส.ว. 249 ราย ได้โหวตให้พลเอกประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี และงดออกเสียง 1 ราย (อ่านข่าวที่นี่)

ต้องได้เสียงเท่าไรจึงจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้?

หากคาดการณ์ว่า ส.ว. ทั้ง 250 เสียง จะโหวตสนับสนุนฝ่ายอนุรักษ์นิยมหรือฝ่ายรัฐบาลเดิมทั้งหมด

พรรคของฝ่ายอนุรักษ์นิยม จะต้องการ ส.ส. อีก 126 เสียง

ส่วนพรรคฝ่ายเสรีนิยม หรือพรรคฝ่ายค้านเดิม จะต้องการ ส.ส. 376 เสียง

ดังนั้น พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย จึงจำเป็นต้องรวบรวมเสียงในสภาให้ได้มากกว่า 376 เสียง เพื่อจัดตั้งรัฐบาลโดยไม่ใช้เสียง ส.ว.

ภาพจาก iLaw

พิธาแถลง พร้อมจัดตั้งรัฐบาล

โดยล่าสุด เมื่อช่วงเที่ยงของวันนี้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้แถลงข่าวประกาศชัยชนะ ระบุว่าพร้อมจับมือฝ่ายค้านเดิม และพรรคเล็ก จัดตั้งรัฐบาล

ซึ่งแม้รวมกันแล้ว ก้าวไกลยังต้องการอีกกว่า 67 เสียง ถึงจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลโดยไม่พึ่งเสียงโหวตจาก ส.ว. ได้ หลายฝ่ายจึงมีการจับตาว่าก้าวไกลจะดึงภูมิใจไทยเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ แม้ล่าสุดพิธาจะระบุว่า “ไม่มีความจำเป็น”

โดยนายพิธากล่าวว่า ส.ว. ก็ควรเคารพฉันทามติของประชาชนด้วย และการโหวตค้านเสียงของประชาชนก็จะไม่เป็นผลดีต่อฝ่ายใดเลย จึงไม่มีความกังวลเกี่ยวกับกรณีของ ส.ว.

นอกจากนี้ บางฝ่ายก็วิเคราะห์ว่า จากสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปมากจาก 4 ปีที่แล้ว ครั้งนี้ ส.ว. อาจมีการเปลี่ยนแปลงการโหวต โดย ส.ว. บางส่วนอาจโหวตเคารพตามฉันทามติของประชาชน (ที่มา: Thai PBS, iLaw)

(อัปเดต) นอกจากนี้ เครือข่ายนักวิชาการเสียงประชาชนจาก 10 สถาบัน ร่วมกับเครือข่ายสื่อ 10 สำนัก ได้สร้างโพลให้ประชาชนมาร่วมโหวตในหัวข้อ “เห็นด้วยหรือไม่ ส.ว. ควรเคารพเสียงประชาชนโดยโหวตเลือกนายกฯ ตามเสียงข้างมากของ ส.ส.”

โดยประชาชนสามารถโหวตผ่าน ผ่าน QR Code ในทวีตด้านล่าง หรือลิงก์ https://bit.ly/3Obvlj0

Avatar

Title:ระบบ ส.ว. 250 ที่นั่งจะส่งผลต่อก้าวไกลและพรรคร่วมรัฐบาลอย่างไร?

By: Cielito Wang

Result: Explainer