เพื่อไทยยืนยัน ไม่ชิงจัดตั้งรัฐบาลตัดหน้าก้าวไกล

เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าพรรคที่ชนะการเลือกตั้งและได้รับคะแนนเสียงส่วนใหญ่จากประชาชนก็คือพรรคก้าวไกล โดยพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลได้ออกมาแถลงข่าวประกาศชัยชนะ พร้อมจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างมาก โดยได้มีการติดต่อพูดคุยไปยังแกนนำทั้ง 5 พรรค ได้แก่ พรรคเพื่อไทย พรรคประชาชาติ พรรคไทยสร้างไทย พรรคเสรีรวมไทย และอยู่ในระหว่างการติดต่อพรรคเป็นธรรม และปิดประตูการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย แต่แม้จะชนะการเลือกตั้งและได้เสียงข้างมากถึง 309 เสียง จากจำนวนที่นั่งของพรรคร่วมรัฐบาล แต่ก็ยังไม่ถึง 376 เสียง ซึ่งจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลและเลือกนายกรัฐมนตรีได้โดยไม่ต้องใช้เสียง ส.ว. (อ่านเกี่ยวกับระบบ ส.ว. เพิ่มเติมได้ที่นี่: ระบบ ส.ว. 250 ที่นั่งจะส่งผลต่อก้าวไกลและพรรคร่วมรัฐบาลอย่างไร?) ทำให้เกิดกระแสข่าวว่า พรรคเพื่อไทยที่ขณะนี้มี ส.ส. กว่า 140 เสียงอาจไปจับมือกับพรรคพลังประชารัฐและพรรคภูมิใจไทย เพื่อจัดตั้งรัฐบาลเอง ข้อกล่าวอ้างบนโซเชียลมีเดีย ไทกร พลสุวรรณ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ได้โพสต์วิดีโอบนเพจเฟซบุ๊กของตน ชื่อคลิป “เพื่อไทยตัดหน้าตั้งรัฐบาลแข่งก้าวไกล ดอดเจรจากับพล.อ.ประวิตร ขอเศรษฐาเป็นนายกฯ สมศักดิ์ เทพฯ ขึ้นแท่นผู้จัดการรัฐบาลคนใหม่ #เลือกตั้ง66” Archive โดยไทกร ได้กล่าวในคลิปว่า: “ล่าสุด ความคืบหน้าเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาลวันนี้ […]

Continue Reading

ระบบ ส.ว. 250 ที่นั่งจะส่งผลต่อก้าวไกลและพรรคร่วมรัฐบาลอย่างไร?

การเลือกตั้งใหญ่ปี 2566 ของประเทศไทยได้สิ้นสุดลงแล้วเมื่อเย็นวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการจาก กกต. ขณะนี้ พรรคก้าวไกลครองเสียงข้างมากถึง 150 ที่นั่งในสภา ส่งผลให้ก้าวไกลกลายเป็นพรรคที่ได้รับเสียงข้างมาก เคียงคู่มากับพรรคเพื่อไทย ที่ปัจจุบันได้ 140 ที่นั่งในสภา และเนื่องจากทั้งสองพรรคมีจุดยืนหลักเดียวกันคือ “ไม่เข้าร่วมกับ 3 ป.” จึงมีความเป็นไปได้สูงมากว่าทั้งพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยจะจับมือกันตั้งรัฐบาลในฐานะพรรคเสียงข้างมาก อย่างไรก็ตาม แม้ทั้งสองพรรคจะมีเสียงในสภารวมกันถึง 290 เสียง จาก 500 เสียง ก็ยังไม่สามารถการันตีได้ว่าจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลและเป็นนายกรัฐมนตรีได้ เนื่องจากตามบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญปี 2560 มีการให้ส.ว.อีก 250 เสียงร่วมโหวตนายกรัฐมนตรีได้ รวมเสียงที่สามารถโหวตนายกรัฐมนตรีจึงมีทั้งหมด 750 เสียง ส.ว. มาจากไหนบ้าง? ส.ว. 250 คน จัดตั้งมาจาก 3 กลุ่ม กลุ่มแรก มาจากคณะกรรมการสรรหา ส.ว. เลือกบุคคลที่เหมาะสมมา 400 คน แล้วส่งรายชื่อให้ คสช. และเลือกรอบสุดท้ายเหลือ 194 คน ซึ่งคณะกรรมการสรรหา ส.ว. ก็มาจาก […]

Continue Reading

กกต. ชี้แจง กรณีปากกาหมึกจาง “เป็นความเท็จทั้งสิ้น”

สุดสัปดาห์นี้ถือเป็นโค้งสุดท้ายสำหรับการเลือกตั้งครั้งใหญ่ ประชาชนต่างจับตาและตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับความโปร่งใสของการเลือกตั้งครั้งนี้ และจากกระแสความไม่ไว้วางใจที่ประชาชนมีต่อ กกต. จึงมีการเชิญชวนให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งนำมาปากกามาเลือกตั้งเอง พร้อมข้อกล่าวอ้างว่า กกต. จะเตรียมปากกาแบบหมึกจางได้ไว้ให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งใช้ในคูหา Archive นอกจากนี้ยังมีผู้โพสต์คลิปปากกาหมึกล่องหน ที่หมึกจะหายไปเองเมื่อใช้ความร้อน ทำให้ผู้ใช้โซเชียลหลายรายเกิดความคลางแคลงใจ และกล่าวว่าจะนำปากกาไปใช้เลือกตั้งเอง Archive Archive อย่างไรก็ตาม สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ออกมาชี้แจงแล้วว่า ไม่มีการใช้ปากกาลักษณะดังกล่าวในการเลือกตั้งแต่อย่างใด กกต. ยืนยัน ปากกาที่ใช้ในคูหาเลือกตั้งเป็นปากกาธรรมดา เมื่อวันที่ 10 พ.ค. ที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้โพสต์ชี้แจงบนเพจเฟซบุ๊กอย่างเป็นทางการของหน่วยงาน ถึงกรณีดังกล่าวว่า ปากกาที่ใช้ในคูหาเลือกตั้งทุกหน่วยเลือกตั้ง เป็นปากกาลูกลื่นทั้งหมด โดยปากกาดังกล่าวไม่สามารถลบเลือนหรือจางหายไปได้เอง ดังนั้นปากกาที่ปรากฎเป็นข่าวจึงเป็นความเท็จทั้งสิ้น และยังเตือนว่าไม่ควรแชร์ต่อ เนื่องจากมีผู้แชร์หรือกดถูกใจข้อกล่าวอ้างดังกล่าวจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ได้ อย่างไรก็ตาม หากผู้มีสิทธิเลือกตั้งต้องการใช้ปากกาที่นำมาเอง ก็สามารถทำได้ อ่านข้อควรรู้และข้อห้ามก่อนและในวันเลือกตั้งที่นี่: #เลือกตั้ง66: รวมข้อควรรู้และข้อห้ามก่อนวันเลือกตั้ง  สรุป จากที่มีผู้ใช้โซเชียลเชิญชวนให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งนำปากกามาเลือกตั้งเอง พร้อมข้อกล่าวอ้างว่า กกต. จะเตรียมปากกาแบบหมึกจางได้เองไว้ให้ใช้ในคูหา ทาง กกต. ได้ออกมาแถลงยืนยันแล้วเป็นความเท็จทั้งสิ้น Title:กกต. ชี้แจง กรณีปากกาหมึกจาง […]

Continue Reading

#เลือกตั้ง66: รวมข้อควรรู้และข้อห้ามก่อนวันเลือกตั้ง

การเลือกตั้งใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคมที่จะถึงนี้ ถือเป็นวาระสำคัญสำหรับคนไทยทุกคน และสำหรับผู้มีสิทธิเลือกตั้ง วันเลือกตั้งเป็นช่วงเวลาสำคัญที่จะได้ใช้สิทธิในการเลือกผู้สมัครและพรรคที่ต้องการเป็นผู้นำประเทศและเลือกตัวแทนจากพื้นที่ของตนเข้าไปเป็นสมาชิกสภา ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งจึงไม่ควรละเลยสิทธิในการลงคะแนนเสียงของตน Fact Crescendo จึงได้รวบรวมสิ่งที่ควรทำและข้อห้ามที่ต้องปฏิบัติตามในช่วงเลือกตั้ง เตรียมความพร้อมก่อนเข้าคูหา เช็กคุณสมบัติของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ๐ ต้องมีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ในวันเลือกตั้ง ๐ ต้องมีสัญชาติไทยผู้ที่โอนสัญชาติมาเป็นคนไทย ต้องได้รับสัญชาติมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ปี ๐ ต้องมีชื่อในทะเบียนบ้านมาแล้วไม่น้อยกว่า 90 วัน ไปใช้สิทธิตามที่อยู่ในทะเบียนบ้าน ผู้จะไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ต้องไปใช้สิทธิตามที่อยู่ในทะเบียนบ้าน เว้นแต่ คนที่เพิ่งย้ายทะเบียนบ้านไม่ถึง 90 วัน ก่อนวันเลือกตั้ง ต้องไปใช้สิทธิในหน่วยเลือกตั้งตามทะเบียนบ้านเดิมที่อยู่มานานกว่า 90 วัน หากเพิ่งย้ายทะเบียนบ้าน และต้องการใช้สิทธิในหน่วยออกเสียงตามที่อยู่ใหม่ ต้องไปลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้งนอกเขตโดยต้องเลือกผู้สมัครของเขตเลือกตั้งตามที่อยู่เดิม ตรวจสอบรายชื่อตัวเองและหน่วยเลือกตั้ง ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง สามารถตรวจสอบชื่อ และหน่วยออกเสียงที่ตัวเองต้องไปลงคะแนนได้จากหนังสือที่ส่งไปยังเจ้าบ้าน ซึ่งจะส่งไปถึงไม่เกิน 20 วัน ก่อนวันเลือกตั้ง หรือสามารถตรวจสอบรายละเอียดเขตเลือกตั้ง หน่วยเลือกตั้ง และสถานที่เลือกตั้งได้ที่นี่: ตรวจสอบรายละเอียดผู้มีสิทธิเลือกตั้ง หรือที่แอปพลิเคชัน Smart Vote (Android | iOS) หลักฐานแสดงตน ใช้เอกสารอะไรได้บ้าง? […]

Continue Reading

#เลือกตั้ง66: “ห้าม” ถ่ายทอดสดตอนนับคะแนน จริงหรือไม่?

อีกเพียง 7 วัน ก็จะถึงวันเลือกตั้งใหญ่ปี 2566 แล้ว ในขณะที่ประชาชนเฝ้าจับตากระบวนการเลือกตั้งครั้งนี้อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งตั้งข้อกังขาในกระบวนการทำงานของ กกต. หลังพบเหตุการณ์ผิดพลาดต่างๆ (อ่านข่าวที่นี่) นอกจากนี้ เราพบข้อกล่าวอ้างเกี่ยวกับการเลือกตั้งที่สร้างความเข้าใจผิดในวงกว้างแพร่กระจายตามแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ ข้อกล่าวอ้างบนโซเชียลมีเดีย ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้ใช้โซเชียลทั้งเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ต่างแชร์ข้อกล่าวอ้างที่ระบุว่า “กกต. ไม่อนุมัติให้มีการถ่ายทอดสดนับคะแนนแบบเรียลไทม์” Source | Archive โพสต์ดังกล่าวมีการแชร์ต่อกว่าสองพันครั้ง โดยผู้ใช้โซเชียลต่างมาแสดงความคิดเห็นประหลากใจและไม่พอใจเป็นจำนวนมาก โดยข้อความดังกล่าวเผยแพร่อย่างกว้างขวางทั้งบนเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ ล่าสุดทวีตดังกล่าวมีการรับชมไปแล้วกว่าสองล้านครั้ง กกต. สั่งห้ามถ่ายทอดสดการนับคะแนนจริงหรือไม่ นายแสวง บุญมี เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ชี้แจงว่า สามารถถ่ายภาพและวิดีโอบรรยากาศในคูหาเลือกตั้งขณะลงคะแนน (ภายนอกคูหา) และการนับคะแนนที่ใบขีดคะแนนได้ ตราบใดที่ไม่ไปรบกวนการทำงานของ กปน. รวมถึงสามารถทักท้วงการขีดคะแนน การขานคะแนน และการอ่านคะแนนได้ ที่มา: iLaw ดังนั้น ข้อกล่าวอ้างที่ระบุว่า กกต. ห้ามไม่ให้ถ่ายทอดสดการนับคะแนนแบบเรียลไทม์นั้น จึงไม่ใช่ความจริงแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ประชาชนได้ตั้งข้อสงสัยและแสดงความไม่พอใจในการทำงานของ กกต. หลังจากมีการเลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อวันอาทิตย์ที่ 7 พฤษภาคมที่ผ่านมา จนเกิดแฮชแท็ก #กกตมีไว้ทำไม […]

Continue Reading

ไม่ใช่เลขสาม: ภาพพลเอกประยุทธ์ชูนิ้วมือที่ถูกเข้าใจผิด

ในช่วงเลือกตั้งใหญ่ที่จะเกิดขึ้นเดือนหน้า ในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ ข่าวปลอมเป็นอีกปัญหาสำคัญที่หลายๆ ฝ่ายควรต้องเฝ้าระวัง เพราะข้อมูลต่างๆ ล้วนมีผลต่อการตัดสินใจของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง และสามารถส่งผลต่อการเลือกตั้งได้โดยตรง และล่าสุดเราพบข้อมูลที่ชวนให้ผู้คนเข้าใจผิด และอาจส่งผลต่อการตัดสินใจในการเลือกได้ เมื่อวันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมา เพจเฟซบุ๊ก “ไทยรัฐนิวส์โชว์” ของสำนักข่าวไทยรัฐ ได้แชร์ภาพพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรครวมไทยสร้างชาติ ชูมือหนึ่งนิ้วและสองนิ้ว ร่วมกับสมาชิกพรรคอีกสองรายข้างๆ พร้อมข้อกล่าวอ้างว่าพลเอกประยุทธ์ พยายามชูมือเป็นเลข 3 เนื่องจากผู้ลงสมัครของพรรคจับได้เบอร์ 3 ในการเลือกตั้งครั้งนี้ Source | Archive โดยผู้ใช้โซเชียลได้แสดงความคิดเห็นในภาพดังกล่าวมากมาย เช่น “ไม่ชูข้างเดียวละครับ แบบนี้เบอร์12นะ”, “แววมันออก เลข 3 ชูนิ้วแบบนั้นหรอ”, “ไหนว่าก้าวข้ามความขัดแย้งแค่จะชู 3 นิ้วก็กลัวเสียศักดิ์ศรี” โดยภาพดังกล่าวของพลเอกประยุทธ์ พร้อมข้อกล่าวอ้างที่ระบุว่าพรรครวมไทยสร้างชาติของพลเอกประยุทธ์จับได้หมายเลข 3 และการชูนิ้วแสดงถึงหมายเลข 3 อีกแบบเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ซ้ำกับสัญลักษณ์การชู 3 นิ้ว ของฝั่งต่อต้านเผด็จการ ก็ได้แพร่กระจายอย่างเป็นวงกว้าง ทั้งบนเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ Source […]

Continue Reading